ที่กรุงปารีส ของฝรั่งเศส มีชาวฝรั่งเศสประมาณ 20,000 คนฝ่าฝืนมาตรการห้ามการรวมกลุ่มของประชาชน เข้าร่วมการเดินขบวนประท้วงเพื่อต่อต้านการเหยียดสีผิว เรียกร้องความยุติธรรมให้กับนายจอร์จ ฟลอยด์ ชายชาวอเมริกันผิวสี และรำลึกถึงนายอดาม่า ตราโอเร่ ชายชาวฝรั่งเศสผิวสี ที่เสียชีวิตระหว่างถูกตำรวจจับกุมในปี 2559
ทั้งนี้ ทางการฝรั่งเศสมีมาตรการห้ามประชาชนรวมกลุ่มมากกว่า 10 คน เพื่อควบคุมโรคโควิด-19 และการประท้วงในกรุงปารีสยังมีความรุนแรงเกิดขึ้นเมื่อผู้ประท้วงบริเวณหน้าศาล ทางเหนือของเมืองหลวง ขว้างปาสิ่งของข้ามรั้วไปยังสำนักงานศาล และแถวของตำรวจปราบจลาจล ทำให้ตำรวจต้องยิงแก๊สน้ำตาเพื่อตอบโต้ ส่วนในจุดอื่นๆ มีการเผาถังขยะ รถจักรยานยนต์ และสกู๊ตเตอร์ เพื่อกีดขวางการจราจร เจ้าหน้าที่ตำรวจ มีการใช้กระสุนยางต่อผู้ประท้วง
นายคริสตอฟ แคสแตนแนร์ รัฐมนตรีกิจการภายในของฝรั่งเศส ทวีตข้อความว่า ความรุนแรงไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตย โดยเฉพาะการฝ่าฝืนมาตรการสาธารณะที่มีเป้าหมายปกป้องสุขภาพของทุกคน
...