ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.วันพุธที่ 3 มิถุนายน 2563

03 มิถุนายน 2563, 09:43น.


คลัง เตรียมเสนอ ครม.ไฟเขียวซอฟต์โลนช่วย 8 สายการบิน



           การร้องขอให้รัฐบาลสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำหรือซอฟต์โลนวงเงิน 24,150 ล้านบาท ของ 8 สายการบินของไทย ได้เรียกร้องมาตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค. และเมื่อวันที่ 24 เม.ย.เป็นครั้งแรกที่ทั้ง 8 สายการบินได้ร่วมหารือกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เพื่อหารือถึงการขอให้รัฐบาลสนับสนุนซอฟต์โลนวงเงินดังกล่าว เพื่อประคองธุรกิจและรักษาสภาพการจ้างงานให้มากที่สุด



          นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการ สำนักงานสศค.เปิดเผยว่า สศค.จัดทำแพกเกจซอฟต์โลน 24,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการสายการบินเรียบร้อยแล้วและเสนอให้นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พิจารณาเพื่อนำเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)พิจารณาอนุมัติ จะเป็นการใช้เงินจากธนาคารออมสินที่ปล่อยกู้ให้กับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย(Exim Bank) เพื่อไปดำเนินการปล่อยกู้ให้กับสายการบินอีกต่อหนึ่ง



           รายงานระบุว่า การขอวงเงิน ซอฟต์โลน 24,150 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.สายการบินบางกอกแอร์เวย์ วงเงิน 3,000 ล้านบาท 2.สายการบินไทยแอร์เอเชีย วงเงิน 4,500 ล้านบาท 3.สายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ วงเงิน 3,000 ล้านบาท 4.สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ วงเงิน 3,750 ล้านบาท 5.สายการบินไทยเวียตเจ็ท วงเงิน 900 ล้านบาท 6.สายการบินไทยสมายล์ วงเงิน 1,500 ล้านบาท 7.สายการบินนกสกู๊ต วงเงิน 3,500 ล้านบาท และ 8.สายการบินนกแอร์ วงเงิน 4,000 ล้านบาท



          การขอกู้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ จะขอดอกเบี้ยร้อยละ 2 เป็นระยะเวลา 60 เดือน เริ่มชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยในวันที่ 1 ม.ค. 2564



เจ้าหนี้รายใหญ่ของการบินไทย นัดยื่นคำร้องต่อศาล ขอรับชำระหนี้ก่อนนัดไต่สวน 17 ส.ค.



          หลังจากบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ยื่นตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเพื่อขอพักการชำระหนี้ในหุ้นกู้ที่ครบกำหนด แต่ยังไถ่ถอนไม่ได้ในปี 2562 และจะครบกำหนดไถ่ถอนปี 2563-2564-2566-2572-2577 มูลค่ารวม 8,788 ล้านบาท นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม ประธานกรรมการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยว่า สมาชิกสันนิบาตสหกรณ์เจ้าหนี้การบินไทยอีก 84 แห่ง กำลังหารือกับสำนักงานทนายความ และสถาบันการเงินต่างๆที่ลงทุนในหุ้นกู้ของการบินไทยและจะรวมตัวกันไปยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลางขอรับชำระหนี้ก่อนที่ศาลจะมีการไต่สวนก่อนวันที่ 17 ส.ค.2563 เนื่องจาก ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย (ชสอ.) เป็นสหกรณ์ออมทรัพย์ขนาดใหญ่ที่ลงทุนในหุ้นกู้การบินไทยเกินกว่า 1,000 ล้านบาท จะรวมตัวกันเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ เพื่อให้มีน้ำหนักในการต่อรองมากขึ้น



ครบกำหนดมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้า เดือนมิ.ย.คิดตามการใช้จริง



          การคิดค่าไฟฟ้าในเดือนมิ.ย.2563 จะคิดค่าไฟตามปกติ หลังจากรัฐบาลมีมติช่วยเหลือค่าไฟฟ้าเป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ใบแจ้งค่าไฟฟ้าเดือนมี.ค.-พ.ค. 2563 ซึ่งครบกำหนดแล้ว แม้ว่าจะมีการขยายเวลาบังคับใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกไปอีก 1 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่ 1 มิ.ย.- 30 มิ.ย.ก็ตาม



          นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน แนะนำประชาชนให้ใช้ไฟฟ้าให้คุ้มค่า เปิดดูคู่มือการประหยัดไฟฟ้า เพราะการเยียวยาลดค่าไฟฟ้าทั้ง 2 มาตรการก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะมาตรการใช้ไฟฟ้าฟรี และลดราคาค่าไฟฟ้าร้อยละ 30-50 เพื่อดูแลประชาชน 22 ล้านครัวเรือน ใช้วงเงินไปรวม 23,688 ล้านบาท ส่วนมาตรการลดค่าไฟฟ้าร้อยละ 3 ใช้วงเงินไปรวม 5,610 ล้านบาท รวมทั้งตอนนี้เข้าสู่ฤดูฝน อุณหภูมิจะไม่สูงเท่ากับเดือนเม.ย.- พ.ค.



ศาลฎีกา ตัดสินยืนจำคุก 4 ปี ผู้ต้องหาซิ่งรถ ชนนศ.ป.โท  2 ศพ



          คดีที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 มี.ค. 2559 กรณีนายเจนภพ วีรพร อายุ 41 ปี นักธุรกิจ ขับรถเบนซ์ รุ่นซีแอลเค สีดำ ทะเบียน ษง 3333 กทม. พุ่งชนท้ายรถเก๋งฟอร์ด เฟียสต้า ทะเบียน ฆย 6911 จนเกิดไฟไหม้ ทำให้ นายกฤษณะ ถาวร และ น.ส.ธันฐภัทร์ ฮ้อแสงชัย สาวนักศึกษาปริญญาโท โดนไฟคลอกเสียชีวิต 2 ศพ เหตุเกิดบนถนนพหลโยธิน กม.53 หมู่ 8 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา



          ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ที่พนักงานอัยการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นโจทก์ พร้อมทั้งนายไพบูลย์ ถาวร กับพวกรวม 4 คน เป็นโจทก์ร่วมกันฟ้อง นายเจนภพ จำเลย ฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยศาลฎีกา ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า วันที่เกิดเหตุจำเลยขับรถเบนซ์ ลงมาจากโทลเวย์อุตราภิมุข ถึงบริเวณกม. 52+4000 แล้วชนกับรถฟอร์ด ทำให้ทั้งสองคนเสียชีวิต เห็นว่า เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยเป็นเวลา 2 ปี 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา  ขณะที่ ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2562 ลงโทษจำคุกจำเลย ฐานเสพเมทแอมเฟตามีน ขับรถเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ลงโทษจำคุก 6 ปี แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษให้บางส่วนเหลือลงโทษจำคุกจำเลย 4 ปี ไม่รอลงอาญา ศาลฎีกา พิพากษาเหมาะสมแล้ว พิพากษายืนจำคุกจำเลย 4 ปี ไม่รอลงอาญา แม้จำเลยขอลงโทษสถานเบา ให้เหตุผลว่าจบการศึกษาปริญญาโทจากต่างประเทศ เป็นกรรมการบริษัทต่างๆ ทำประโยชน์แก่สังคม บวชให้ผู้ตายนาน 2 เดือน 3 สัปดาห์ ยังไม่เป็นเหตุบรรเทาโทษ



แฟ้มภาพ



ตำรวจ สั่งล่าผู้ต้องหาหนีคดีฆ่าเซลล์ขายปุ๋ย สั่งฟ้องไม่ทัน  



          คดีฆาตกรรมโหด น.ส.กลิ่นเกษร วงษ์สิงห์ อายุ 36 ปี เซลส์ขายปุ๋ย พบเป็นศพเหลือแต่โครงกระดูกอยู่ในรถเก๋งจมน้ำอยู่ในคลองชัยนาท-ป่าสัก ต.หนองโป่ง อ.หนองโดน จ.สระบุรี หลังหายตัวไปจากบ้านนานกว่า 3 ปี ต่อมาวันที่ 24 ธ.ค. 2562 ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายศาลไปจับกุมตัวนายสันติ หรือเสี่ยไฮ้ จึงทองดี อายุ 63 ปี เสี่ยเจ้าของโรงปุ๋ย บริษัทห้าดาวเคมีภัณฑ์ จำกัด อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี และนายนิวัฒน์ เฉลิมวัฒน์ อายุ 36 ปี ลูกน้องคนสนิท เบื้องต้นปมเหตุฆาตกรรมมาจากเรื่องชู้สาว นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.หนองโดน ดำเนินคดี แต่ปรากฏว่าคดีสั่งฟ้องไม่ทันจนครบกำหนดฝากขัง ทำให้ต้องปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้งสองออกจากเรือนจำจังหวัดสระบุรี และตำรวจไม่สามารถติดตามตัวมาส่งอัยการได้จนต้องขออนุมัติศาลออกหมายจับ



          พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 (สส) ประชุมเร่งรัดติดตามจับกุมตัว นายสันติ และนายนิวัฒน์ ลูกน้องคนสนิท ผู้ต้องหาหลบหนีคดีในชั้นศาล หลังร่วมกันฆ่าอำพรางศพ น.ส.กลิ่นเกษร นอกจากนี้ ยังมีผู้ต้องหาอีก 1 คน คือ นายมาโนช สอบสวัสดิ์ ที่ร่วมกันฆ่าอำพรางศพด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจค้านประกันในชั้นสอบสวน แต่นายมาโนช มารายงานตัว ขณะที่นายสันติ กับนายนิวัฒน์ ไม่ได้มารายงานตัว จึงขอศาลจังหวัดสระบุรีออกหมายจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ซึ่งก็มีกระแสว่าตำรวจท้องที่ได้ดึงสำนวนคดีให้สั่งฟ้องไม่ทันหรือไม่ ตนได้ตรวจสอบไปยังทีมสอบสวนภูธรสระบุรีแล้ว ยืนยันว่าทุกขั้นตอนทำตามกฎหมาย จากนี้ตำรวจจะติดตามตัวมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด และคนที่ช่วยเหลือก็มีความผิดด้วย 



ศาลนัดสืบพยานโจทก์คดี"บรรยินฆ่าอำพรางเสี่ยชูวงษ์" อีกครั้ง 9 มิ.ย.



        คดีที่พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และอดีต ส.ส.นครสวรรค์ เป็นจำเลยในคดีฆ่านายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง วัย 50 ปี นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง เมื่อปี 2558 โดยพ.ต.ท.บรรยิน ขับรถของนายชูวงษ์ เลกซัสสีดำ ทะเบียน ภฉ 1889 กทม. เกิดเสียหลักชนต้นไม้ บริเวณริม ถ.เฉลิมพระเกียรติ ร.9 ระหว่างซอย 48 กับซอย 50 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ ทำให้นายชูวงษ์ เสียชีวิต ทำให้นางศิริรัตน์ แซ่ตั๊ง ภรรยานายชูวงษ์ กับพวกรวม 5 คนเป็นโจทก์ยื่นฟ้องพ.ต.ท.บรรยิน ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้   



          ทั้งนี้ โจทก์นำพยานเข้าเบิกความจนจบ 1 ปากแล้ว ทนายโจทก์ แถลงว่า ยังติดใจสืบพยานอีก จึงขอเลื่อนไปสืบพยานโจทก์ที่เหลือในนัดหน้า ศาลให้เลื่อนไปนัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ 9 มิ.ย.เวลา 9.00 น.ตามที่นัดไว้เดิมและให้คู่ความทั้งสองฝ่ายไปกำหนดวันนัดสืบพยานจำเลยแทนนัดที่มีการเลื่อนการพิจารณา



 

ข่าวทั้งหมด

X