ในการคลายล็อกกิจการระยะที่ 2 กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ แนะคลินิกที่ให้บริการเสริมความงามทุกแห่ง เตรียมพร้อมระบบเฝ้าระวังการแพร่กระจายและคัดกรองโรคโควิด-19 โดยยึดแนวปฏิบัติตามมาตรการ 7 ขั้นตอน

นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ประกาศให้มีการคลายล็อก 3 ประเภทกิจการ/กิจกรรม โดยคลินิกที่ให้บริการเสริมความงาม เฉพาะเรือนร่าง ผิวพรรณ เว้นการทำความงามที่เกี่ยวข้องบนใบหน้า ถูกจัดอยู่ในกิจการ/กิจกรรมประเภทที่ 2 ด้านการออกกำลังกายหรือการดูแลสุขภาพ ซึ่งแม้ว่าจะเป็นมาตรการผ่อนปรนในระยะที่ 2 แต่หากผู้ประกอบการปล่อยปละละเลย ก็อาจทำให้เกิดการระบาดระลอกใหม่ได้ จึงขอให้ยึดหลักปฏิบัติตาม แนวทางการปฏิบัติที่เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ของสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ (https://mrd-hss.moph.go.th) อย่างเคร่งครัดเพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อตัวผู้รับบริการ บุคลากรประจำคลินิก และเป็นการป้องกันโรค ซึ่งหากไม่ปฏิบัติตามก็จะมีความผิดตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกและปรับ อีกทั้ง อาจมีคำสั่งให้ปิดกิจการเป็นการชั่วคราวอีกด้วย
ด้านทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรม สบส. กล่าวต่อว่า 7 ขั้นตอน ได้แก่
1 การจัดให้มีจุดคัดกรองประจำสถานพยาบาล ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ วัดอุณหภูมิ
2 การจัดจุดรับรองรอตรวจ มีที่นั่งรอระยะห่าง 1.5-2 เมตร มีการเช็ดทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
3 การจัดทำเวชระเบียน คัดกรองบันทึกซักถามประวัติเสี่ยงของผู้ที่มารับบริการ มีการวัดอุณหภูมิทุกครั้ง
4 การตรวจหรือปรึกษาโดยแพทย์/พยาบาล รับบริการได้ 1 คนต่อ แพทย์หรือพยาบาล 1 ท่าน โดยมีการรักษา Social Distance เสมอ
5 บริการหัตถการต่างๆ มีการแยกห้องผู้รับบริการ ห้องละ 1 คน ผู้ให้บริการมีการสวมหน้ากากอนามัย หรือ Face Shield และสวมถุงมือทุกครั้ง
6 การชำระเงิน/จ่ายยา/นัดตรวจ จัดให้มีการชำระค่าบริการแบบออนไลน์ จัดทำเอกสารแนะนำบริการ/ใบเสร็จ/ใบนัดตรวจ ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ หากชำระด้วยเงินสดหรือต้องส่งมอบเอกสารต่างๆ พนักงานต้องใส่ถุงมือ
7 การอำนวยความสะดวกอื่นๆในสถานพยาบาล ต้องมีการแยกขยะติดเชื้ออย่างถูกต้อง จัดให้มีเจลแอลกอฮอล์บริการตามจุดต่างๆ
ซึ่งการที่คลินิกปฏิบัติตามแนวทางอย่างเคร่งครัด นอกจากจะเป็นการป้องกันมิให้เกิดการระบาดของโรคซ้ำแล้ว ยังเป็นการช่วยพัฒนาระบบเศรษฐกิจของประเทศให้ได้รับการฟื้นฟูอีกทางหนึ่ง
...