ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30น.ประจำวันศุกร์ที่ 15 พฤษภาคม 2563
รอวันนี้ ศบค.เคาะ มาตรการผ่อนปรนระยะที่ 2 ขยายเวลาเคอร์ฟิว
พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. เปิดเผย ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เรียกประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์โควิด -19 หรือ ศบค. ชุดเล็กเพื่อนำมติที่ประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19 )ซึ่งทิศทางการคลายล็อกเป็นไปตามที่สื่อมวลชนนำเสนอไปบ้างแล้ว โดยการเปิดห้างสรรพสินค้าอาจมีการปิดบางแผนก แต่ส่วนใหญ่จะเปิดหมดเกือบทุกกิจการภายในห้างสรรพสินค้า เว้นแต่กิจกรรมที่มีความเสี่ยง เช่น โรงภาพยนตร์ คาราโอเกะ ตู้เกมส์ โรงเรียนกวดวิชา ที่ต้องสั่งห้ามเปิดไปก่อน ซึ่งห้างสรรพสินค้าต้องปิดภายในเวลา 21.00 น.
ส่วนการประกาศลดเวลาเคอร์ฟิว พล.อ.สมศักดิ์ ระบุว่า ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการร้องขอของผู้ประกอบการ แต่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของศบค. ซึ่งในวันนี้นายกรัฐมนตรีจะพิจารณาอีกครั้งในที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่ ซึ่งการปรับเวลาเคอร์ฟิวจะปรับตาม กิจกรรมหรือกิจการที่คลายล็อกออกมาเป็นตัวตั้ง ซึ่งจะไม่มากไปกว่าเดิม ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้ที่จะเลื่อนขยายประกาศเคอร์ฟิว จาก 22.00-04.00 น. เป็นเวลา 23.00 -04.00 น.แต่ท้ายที่สุดต้องรอความคิดเห็นในที่ประชุมก่อน และเคอร์ฟิวเองจะไม่เข้มข้นไปกว่าเดิม
เลขาธิการสมช. กล่าวว่า ขณะนี้ยังคงห่วงสถานการณ์ แม้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะลดน้อยลง แต่ยังไม่สามารถวางใจได้ เนื่องจากมีอีกหลายประเทศหลังการคลายล็อกจะมีการติดเชื้อในระลอกที่ 2 ซึ่งจะยิ่งยากต่อการควบคุม โดย ศบค.เองจะค่อยๆคลายล็อกในแต่ละเฟสด้วยความระมัดระวังที่สุด รวมถึงยังห่วงประชาชนหลังการคลายล็อกในเรื่องความหย่อนยานมาตรการป้องกันตนเอง และการมั่วสุมชุมนุมกัน เจ้าหน้าที่เองจะลงไปตรวจเข้มมากขึ้นทั้งในกรุงเทพมหานคร และพื้นที่ต่างจังหวัด เพราะสถิติที่พบไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดนั้นยังคงมีอยู่ แต่ยังเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ในประเทศให้ความร่วมมือดีจึงต้องมีการผ่อนปรนมาตรการลง
ด้านการเคลื่อนย้ายข้ามจังหวัดจะยังเข้มข้นเช่นเดิมหรือไม่ เลขาธิการ สมช. ย้ำว่าขึ้นอยู่กับการพิจารณาคลายล็อกในกิจการต่างๆวันนี้ มาพิจารณาร่วมเช่นกันว่าจะคงเดิมหรือผ่อนคลายลง
โพลคนใต้ อยากให้รัฐบาลเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ หลังวิกฤตโควิด-19
สถานการณ์โควิด-19 ในภาคใต้ของประเทศไทย “หาดใหญ่โพล” ของ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ สำรวจ 400 คนใต้ พบว่า ต้องการให้รัฐบาลฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังสถานการณ์โควิด-19 มากที่สุด ร้อยละ 55.25 รองลงมาพัฒนาสาธารณสุขและการแพทย์ให้ก้าวไกลสู่สากลและวางแผนพัฒนาไทยเป็นครัวโลกอย่างจริงจังที่ร้อยละ20 และ ร้อยละ 8.5 ตามลำดับ สำหรับสถานการณ์ภาพรวมของ 14 จังหวัดภาคใต้เมื่อวานนี้ ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มแม้แต่คนเดียว ยอดผู้ป่วยสะสมคงอยู่ที่ 726 คน ผู้ป่วยเสียชีวิตเท่าเดิมที่ 10 ราย ขณะที่ จังหวัดระนอง รักษาแชมป์จังหวัดเดียว ที่ไม่มีผู้ติดเชื้อไว้ได้
ประชุมบอร์ดการบินไทยวันนี้ รมว.คลัง ให้ครม. เคาะอนาคต การบินไทย เมินยื่นล้มละลาย
การฟื้นฟูบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล รองประธานกรรมการคนที่ 2 รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ THAI ได้มาประชุมร่วมกันที่กระทรวงคมนาคม เพื่อติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาของ THAI ขณะที่ มีรายงานข่าวว่านายสมคิด และนายอุตตม จะเข้าร่วมประชุมด้วย แต่สุดท้ายไม่ได้มาโดยแจ้งว่าติดภารกิจ
ที่ประชุมใช้เวลาหารือประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ตั้งแต่เวลา 15.00-17.30 น. ซึ่งหลังจากประชุมเสร็จแล้ว ทุกฝ่ายปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ ขณะที่ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามจากนายอนุทิน ซึ่งระบุแค่ว่า วันนี้มาหารือร่วมกับกระทรวงคมนาคมเพื่อหาทางออกให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด และต้องมีการรวบรวมข้อมูลพร้อมหารือกับกระทรวงการคลังและผู้ที่เกี่ยวข้องอีกมาก วันนี้เป็นแค่ในส่วนของกระทรวงคมนาคมเท่านั้น
ส่วนการหารือเรื่องให้กระทรวงการคลังค้ำประกันเงินกู้ เพื่อแก้ปัญหาสภาพคล่องให้ THAI หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการหารือเรื่องดังกล่าว แต่กระทรวงการคลังคงไม่สามารถค้ำประกันให้ได้ในสถานการณ์เช่นนี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะตัดทางเลือกดังกล่าวทิ้งไป
ขณะที่ในวันนี้ (15 พ.ค. 2563) เวลาประมาณ 09.00 น. จะมีการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) THAI ที่บริษัท การบินไทยฯ สำนักงานใหญ่ด้วย
ก่อนหน้านี้ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังยังยึดแนวทางการฟื้นฟูกิจการตามมติคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เพื่อแก้ปัญหาขององค์กร
ส่วนการยื่นฟื้นฟูกิจการผ่านศาลล้มละลายนั้นเป็นเพียงแนวทางหนึ่งเท่านั้น แต่การฟื้นฟูฯขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคณะรัฐมนตรี (ครม.)
ตร.ได้ผลพิสูจน์จากแพทย์แล้วคดีข่มขืนลูก
หลังอาจารย์หญิง อายุ 37 ปี เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับสามี อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยเดียวกันใน จ.นครราชสีมา กล่าวหาล่วงละเมิดทางเพศลูกของทั้งคู่ ทั้งสองคน คือ ลูกสาว อายุ 9 ขวบ และลูกชาย อายุ 7 ขวบ
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าฯ นครราชสีมา ได้เรียก เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับคดีมาสอบถามความคืบหน้าทางด้านคดีกับพนักงานสอบสวน และความคืบหน้าผลการตรวจร่างกายเด็กจากแพทย์ของโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เนื่องจากเป็นคดีที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน เป็นเรื่องในครอบครัว และผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นเด็ก ดังนั้นการสอบปากคำและการเก็บหลักฐานจึงต้องทำโดยละเอียด และต้องใช้เจ้าหน้าที่สหวิชาชีพเข้ามาร่วมสอบปากคำเด็กด้วย เนื่องจากเด็กก็ไม่สามารถที่ให้การจับประเด็นได้ชัดเจนมากนัก ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะได้นัดเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพมาสอบสวนอีกครั้ง
พ.ต.อ.กฤตยา เลาประสพวัฒนา ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา เปิดเผยว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้รับผลการตรวจร่างกายของเด็กจาก โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะจะกระทบกับรูปคดี ขั้นตอนต่อไปรอเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพสอบปากคำเด็กทั้งสองคนเพิ่มเติมให้แล้วเสร็จเพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนจะบอกได้ว่าจะเรียกผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหาได้หรือไม่ ทั้งนี้สัปดาห์หน้ารูปคดีจะมีความชัดเจนมากขึ้น
ด้านอธิการบดีมหาวิทยาลัยต้นสังกัดของอาจารย์ทั้งสองคนได้ทราบเรื่องแล้วโดยระบุว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและมีผลกระทบต่อหลายฝ่าย ในส่วนมหาวิทยาลัยยังไม่ได้ตั้งกรรมการสอบสวนวินัยอาจารย์ที่ถูกภรรยาแจ้งความ มหาวิทยาลัยก็พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
ส่งอัยการมุกดาหารร่วมสอบคดีครูข่มขืนศิษย์
ส่วนคดี 5 ครูและ 2 ศิษย์เก่า ร่วมกันล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิงนักเรียนชั้น ม.2 และม.4 ในโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.มุกดาหาร นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากนายธีระศักดิ์ พลอยเพชร อัยการจังหวัดมุกดาหารว่าคดีนี้ทางสำนักงานอัยการจังหวัดมุกดาหาร ได้มอบหมายให้มีอัยการไปร่วมสอบสวนปากคำผู้เสียหาย เนื่องจากเป็นเด็กอายุไม่เกิน 18 ปี ซึ่งการสอบปากคำจะต้องกระทำต่อหน้าพนักงานอัยการ, นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ส่วนเรื่องการสืบพยานล่วงหน้านั้น อัยการจะยื่นศาลขอสืบพยานล่วงหน้าตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 237 ทวิ ซึ่งอัยการจะพิจารณาตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายว่าเข้าเงื่อนไขที่จะยื่นขอศาลสืบพยานล่วงหน้าหรือไม่
ด้านนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ทางสพท.ยังไม่ได้รายงานความคืบหน้ามา แต่ทราบว่าทางศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง และให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว ขณะนี้กำลังเสนอให้คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ (กมว.) พิจารณาพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู 5 รายเป็นการชั่วคราว ซึ่งจะประชุมกันในวันนี้ (15 พ.ค.) เพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหามีโอกาสหาข้อมูลหลักฐาน โต้แย้ง แต่จากข้อมูลหลักฐานที่มีอยู่เพียงพอตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง และหากทราบว่าผู้อำนวยการโรงเรียนทราบเรื่อง แต่ยังละเลยไม่แก้ไขปัญหา จะถือว่ามีความผิดทางวินัยด้วย เพราะรับรู้และปล่อยให้เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้น
ประหาร'ติวเตอร์ณัฐ' คุกแม่ยาย-เมียตลอดชีวิต
ศาลจังหวัดนครสวรรค์นัดฟังคำพิพากษาคดีนายณัฐพล ถาวรพิบูลย์ เจ้าของสถาบันกวดวิชาทหาร "กวดวิชา บ้านพี่ณัฐ" ซึ่งตั้งอยู่ภายในหมู่บ้านไอซ์แลนด์ 6 เขตพื้นที่ ต.วัดไทร อ.เมือง จ.นครสวรรค์ เป็นจำเลยที่ 1 ฐานทำร้ายร่างกาย ด.ช.ฐปกร ทรัพย์สิน หรือน้องชายแดน ขณะเข้าไปศึกษาอยู่ในสถาบันดังกล่าวจนได้รับบาดเจ็บสาหัสก่อนจะไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ โดยมี น.ส.พีรญา พละแสน ภรรยานายณัฐพล และ น.ส.นงลักษณ์ พละแสน แม่ยายนายณัฐพล อยู่ร่วมในเหตุการณ์ทำร้ายน้องชายแดน ร่วมเป็นจำเลยด้วย เหตุเกิดช่วงเดือนมิถุนายน 2562 โดยศาลพิจารณาหลักฐานทั้งโจทก์และจำเลย พิเคราะห์แล้วจำเลยมีความผิดตามที่ถูกกล่าวหาจริง จึงตัดสินประหารชีวิตนายณัฐพล และจำคุกตลอดชีวิต น.ส.พีรญาและ น.ส.นงลักษณ์
สำหรับนายณัฐพลยังคงให้การปฏิเสธและขอสู้คดีต่อ โดยให้ทนายยื่นเรื่องขอประกันตัว แต่ทางศาลคัดค้านและไม่อนุญาตให้ประกันตัว โดยผู้ต้องหาทั้งสามยังคงถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ
ด้านญาติของน้องชายแดนที่เข้าไปฟังคำพิพากษา ได้เปิดเผยความรู้สึกว่า ดีใจที่ศาลได้ให้ความยุติธรรม แต่ก็มีความรู้สึกห่วงเล็กน้อยที่รู้ว่าทางคู่กรณีได้ขออุทธรณ์เพื่อสู้คดี กังวลใจว่าในการต่อสู้ขั้นตอนต่อไปจะไม่เหมือนเดิม ซึ่งก็ต้องดูกันต่อไป
ส่วนบิดาและมารดาของน้องชายแดนได้กำหนดกันไว้ว่า ในช่วงสายวันที่ 12 มิถุนายนนี้ ซึ่งครบรอบ 1 ปีการเสียชีวิตของน้องชายแดน จะมีการเคลื่อนศพ ของน้องชายแดนออกจากโรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช นำไปตั้งสวดพระอภิธรรม 1 คืน ก่อนจะมีการฌาปนกิจตามพิธีทางศาสนาต่อไป