ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.ประจำวันพฤหัสบดีที่ 14 พฤษภาคม 2563
ปลดล็อกระยะ 2 ใช้เกณฑ์พิจารณาเดียวกับระยะที่ 1
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การพิจารณาผ่อนปรนกิจกรรมและกิจการที่จะเปิดในระยะที่ 2 ว่า รอผู้เกี่ยวข้องประเมินสถานการณ์และรายงานให้ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด -19(ศบค.)ชุดใหญ่พิจารณาในวันศุกร์ที่ 15 พฤษภาคม สำหรับเกณฑ์ที่ศบค.จะใช้ในการพิจารณาผ่อนคลาย จะยึดตามหลักเกณฑ์เดียวกับระยะที่ 1
จากพฤติกรรม 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม จนถึงวันนี้ หากดูจากจำนวนผู้ป่วยสะสม ผู้ป่วยหายกลับบ้าน และผู้เสียชีวิตที่ลดลง ถือเป็นดัชนีชี้วัด แต่สิ่งที่ทำให้ไม่สบายใจและไม่สามารถผ่อนคลายได้ทั้งหมด เนื่องจาก ยังมีการละเมิดข้อกำหนด อยู่ เช่น ละเมิดเคอร์ฟิว มีการเดินทางข้ามจังหวัดซึ่งไม่ได้ห้าม แต่มีโอกาสเสี่ยง และยังมีการเดินทางเข้าประเทศ ทำให้วันนี้ยังไม่สามารถเปิดอะไรได้หมด แต่ควบคุมอยู่ จึงเตรียมไปสู่การผ่อนคลายระยะที่ 2
ยังพบร้านตัดผม –ร้านตัดขนสัตว์ไม่ผ่านเกณฑ์
ร้านตัดผมและร้านที่ประกอบกิจการประเภทรับฝากและตัดขนสัตว์เป็นหนึ่งในกลุ่มกิจการที่ได้รับอนุญาตให้กลับมาเปิดบริการได้แล้วตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม กระทรวงสาธารณสุข ได้สำรวจสองกลุ่มกิจการดังกล่าวและนำผลสำรวจส่งไปให้ศบค.ตัดสินใจ เพื่อพิจารณาผ่อนปรนในระยะต่อไป คาดว่าในส่วนร้านตัดผม อาจผ่อนคลายให้กลับมาเปิดเต็มรูปแบบในช่วงต่อไป นพ.ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า มีร้านที่ไม่ผ่านเกณฑ์มากกว่าผ่านเกณฑ์ เช่น
-ร้านตัดผม ที่ในขณะนี้ให้บริการได้เพียงสระ,ตัด และไดร์ เท่านั้น จากการสำรวจพบว่า ไม่ผ่านเกณฑ์ คิดเป็นร้อยละ 63 เนื่องจาก เจ้าของร้านไม่บันทึกรายละเอียดของผู้มาใช้บริการตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดเพื่อติดตามตัวหากภายหลังพบผู้ใช้บริการคนใดป่วยเป็นโรคโควิด-19 ,ไม่มีการคัดกรองผู้มาใช้บริการ และไม่สวมหน้ากากอนามัยขณะให้บริการ มีร้านตัดผมที่ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 37 ในจำนวนนี้ร้อยละ 27 เป็นร้านที่ผ่านเกณฑ์ในระดับดีเยี่ยม
-ผลสำรวจกลุ่มร้านรับฝากและตัดขนสัตว์ พบว่า ไม่ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 53 มาจากสาเหตุหลัก 3 ข้อ คือ ไม่คัดกรองผู้มาใช้บริการ, ไม่สวมหน้ากากอนามัย และไม่เว้นระยะห่าง ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 47 ในจำนวนนี้ร้อยละ 40 ผ่านเกณฑ์ระดับดีเยี่ยม
ด้านนพ.อนุพงศ์ สุจริยากุล ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงข้อสงสัยเรื่องการเปิดร้านทำฟันว่า สามารถเปิดได้แล้ว เพราะอยู่ในกิจการที่ได้รับการผ่อนคลายในช่วงแรก แต่กระทรวงสาธารณสุขกำลังปรึกษากับทันตแพทยสภาว่า จะเปิดอย่างไรให้ปลอดภัย
หมอจุฬาฯ แนะใช้ชีวิตอย่างมีสติ ใช้ชีวิตนอกบ้านให้น้อยที่สุด พร้อมรับคลายล็อกระยะ2
รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และรศ.ดร.พญ.ภัทรวัณย์ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ข้อมูลว่า เกือบสองเดือนแล้วที่ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 สม่ำเสมอทุกวัน วันนี้เป็นวันที่เรารอคอย ที่ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ นับเป็นข่าวที่น่ายินดียิ่ง แต่ที่เรากังวล คือ การได้ยินทุกวันว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะน้อยจะมาก ก็ทำให้กังวลและเป็นห่วง มองว่า ถ้ารัฐกำลังจะปลดล็อกระยะที่ 2 ซึ่งจะมีห้างสรรพสินค้าและอื่นๆที่อาจจะมีความเสี่ยงในการติดเชื้อและแพร่เชื้อได้มากขึ้นกว่าการปลดล็อกระยะที่ 1 เราควรต้องระวังอะไรบ้าง?
1. ขอให้ใช้ชีวิตอย่างมีสติ ตั้งอยู่บนความพอเพียง อย่าโลภ อย่าประมาท วางแผนในการใช้ชีวิตในแต่ละวัน
2. ยอมรับและเข้าใจเสมอว่า ทุกครั้งที่เราออกไปใช้ชีวิตนอกบ้าน จะไปช็อป ไปทำธุระ ไปทำงาน ไปเที่ยว ล้วนเป็นวินาทีที่มีความเสี่ยง ดังนั้นหากรักตัวเอง รักคนในครอบครัว ก็ต้องมีอาวุธครบมือก่อนออกจากบ้าน ใส่หน้ากากเสมอ พกเจลแอลกอฮอล์หรือหมั่นล้างมือบ่อยๆเป็นนิสัย และอยู่ห่างจากคนอื่นๆ สงสัยไว้ก่อนว่าอาจติดเชื้อโดยไม่รู้ตัว ระแวงให้มากขึ้น...จะช่วยให้ระวังมากขึ้น แต่ตระหนักถึงเรื่องดังกล่าว ไม่ต้องตระหนกจนไม่สามารถทำงานได้
3. ปลดล็อกระยะที่ 2 จะทำให้คนในสังคมแออัดมากขึ้นแน่ๆ อย่างไม่ต้องสงสัย ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว และถ้าป้องกันไม่ดีพอ จะระบาดซ้ำใน 4-6 สัปดาห์เหมือนญี่ปุ่นและสิงคโปร์ เลี่ยงการขนส่งสาธารณะช่วงแออัด เผื่อเวลาไว้เสมอ ส่วนการทำงานหากต่อรองและทำงานที่บ้านได้จะดีมาก ส่วนการไปซื้อของ ให้เตรียมถุงส่วนตัวไปจะได้ไม่ต้องใช้ของร่วมกับคนอื่นโดยไม่จำเป็น วางแผนล่วงหน้าว่าจะไปซื้ออะไรที่ไหน จะได้ใช้เวลาให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
ส่วนการบริการใดๆ ที่ใกล้ชิดกัน เช่น นวดหลัง นวดคอ นวดเท้า หรืออื่นๆ ถ้าไม่จำเป็นก็เลี่ยง ถ้าเลี่ยงไม่ได้เพราะใจอยาก ก็ต้องป้องกันให้ดี เคร่งครัดในวินัย และลดเวลาให้สั้นที่สุดเท่าที่จะทำได้ สมาชิกในครอบครัวช่วยกันนวด ก็อาจเป็นทางเลือกที่ดี
ธุรกิจห้างร้านที่ค้าขาย อยากให้ใช้วิธีออนไลน์ให้มากขึ้น เน้นจัดโปรโมชั่นหากซื้อขายกันทางออนไลน์ น่าจะลดต้นทุนและเพิ่มกำไรทั้งผู้ค้าขายและผู้ซื้อ
อาหารการกินในร้านและห้าง บอกตรงๆ ว่าต่อให้จำนวนติดเชื้อเป็น 0 แต่เชื้อยังมีอยู่แน่นอน เพียงตรวจยังไม่เจอ ดังนั้นการกินอาหารแบบซื้อกลับบ้านปลอดภัยกว่าการนั่งอย่างมาก ในฐานะแพทย์คนหนึ่ง ไม่แนะนำให้ไปนั่งกินในร้าน ยกเว้นจำเป็นจริงๆ ก็รีบกินรีบกลับ
รศ.นพ.ธีระ ระบุว่า เราใช้เวลา 5 สัปดาห์หลังจากล็อกดาวน์ จนควบคุมโรคได้ดีขึ้น และนับเป็นเวลา 6 สัปดาห์ที่ทำให้ยอดติดเชื้อใหม่รายวันเป็นศูนย์ แต่ไม่ได้แปลว่าโรคโควิด-19 หายไปจากสังคมไทย ยังอยู่กับเราอีกนาน ตราบใดที่ยังไม่มียาและวัคซีน ตอนนี้กำลังเข้าสู่การระบาดระยะที่ 4 ที่อัตราการติดเชื้อน่าจะลดลงไปยาวๆ แบบนี้ หากเราช่วยกันตั้งการ์ดในการใช้ชีวิตเสมอ New Normal = New "Me"
ทูตสหรัฐหนุนย้ายตั้งฐานลงทุนไทย
นายไมเคิล จอร์จ ดีซอมบรี เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย พร้อมคณะ เข้าคารวะนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หลังเข้ามารับตำแหน่งประจำประเทศไทย ภายหลังการเข้าพบครั้งนี้นายจุรินทร์ เปิดเผยว่า สหรัฐฯจะสนับสนุนให้มีการย้ายฐานผลิตมาตั้งที่ประเทศไทยเพิ่มขึ้น ให้สหรัฐฯสนับสนุนผลักดันให้ภาคผลิตในสหรัฐฯใช้วัตถุดิบในประเทศไทยมากขึ้น เช่น ยางพารา ข้าว ผลิตผลทางการเกษตร อาหาร รวมไปถึงดิจิทัลคอนเทนท์
รายงานข่าวระบุว่า การลงทุนของไทยในสหรัฐฯซึ่งได้ให้ข้อมูลว่าบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ของไทยมีแผนที่จะไปลงทุนในสหรัฐฯ เช่น ปตท.มีแผนจะลงทุนในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี และธุรกิจที่เกี่ยวข้องในมลรัฐโอไฮโอ มูลค่ารวมประมาณ 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์
ก่อนหน้านี้ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้เดินทางไปยังสหรัฐฯ เพื่อเชิญชวนบริษัทขนาดใหญ่ รวมทั้งบริษัทสตาร์ทอัพเข้ามาลงทุนในประเทศไทย โดยเฉพาะบริษัทสหรัฐฯที่อยู่ในซิลิคอน วัลเลย์ รวมไปถึงความร่วมมือระหว่างสถานศึกษาชั้นนำในสหรัฐฯที่จะช่วยพัฒนาผู้ประกอบการไทย
คนไทยอดกินทุเรียนราคาถูก หลังจีนเปิดเมือง
การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศจีน ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว มาถึงต้นปีนี้ ทำให้ชาวไทยมีความฝันว่าจะได้กินทุเรียนในราคาถูกอย่างแน่นอน เพราะตลาดใหญ่ของทุเรียนไทยอยู่ที่จีน เมื่อจีนนำเข้าไม่ได้ ขณะที่ผลผลิตทุเรียนออกมาพร้อมกัน ราคาย่อมถูกลงแน่นอน แต่แล้วความฝันก็ดับสลายไป เมื่อทุเรียนจากสวนในภาคตะวันออก ออกลูกมาทันในจังหวะที่จีนกลับมาเปิดเมืองพอดี
คำสั่งซื้อจากจีนที่เคยคาดกันว่าจะเป็นศูนย์ กลับมาเท่าเดิม แถมยังทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้นกว่าเดิม ทำให้ในประเทศก็ต้องซื้อทุเรียนในราคาแพงตามไปด้วย
ก่อนหน้านี้ ล้งจีนที่เคยเหมาทุเรียนต้นฤดู กิโลกรัมละ 150-180 บาท ถอดใจขอยกเลิกออร์เดอร์นำเข้าจากประเทศไทย หลังเกิดโรคระบาด ตั้งแต่ช่วงเทศกาลตรุษจีน ด่านบ่อหานและด่านโมฮาน มณฑลยูนนาน ไม่ปิดการนำเข้าและส่งออก แต่ไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกที่ไม่ใช่คนจีนเข้าไป ผลไม้จึงตกค้างอยู่ที่จุดนั้น
แต่หลังจากจีนปลดล็อกดาวน์เร็วกว่าที่คาด พอดีจังหวะที่ทุเรียนไทยออกสู่ตลาด คนจีนที่ถูกปิดเมืองก็อยากอุดหนุนสินค้าโดยเฉพาะอาหาร ล้งจึงกลับมารับซื้อไม่อั้น ราคารับซื้อที่สวนสูงถึงกิโลกรัมละ 125 บาท จากนั้นค่อยๆ ปรับลงมา ซึ่งสัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคมอยู่ที่ 104 บาท
นายปิยะ สมัครพงศ์ เกษตรจังหวัดจันทบุรี ระบุว่า ขณะนี้ผลผลิตทุเรียนใน จ.จันทบุรีทยอยออกสู่ตลาดแล้ว ร้อยละ 55 ซึ่งเกษตรกรยังคงขายได้ราคาดี แม้ในช่วง 1-2 วันนี้ ราคาจะปรับลดลงเล็กน้อยหรือต่ำกว่า 100 บาท อยู่ที่กิโลกรัมละ 85-95 บาท
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ความต้องการบริโภคทุเรียนของจีนเพิ่มสูงขึ้น ใน 6 เดือนแรกของปี 2019 การส่งออกทุเรียนไปยังประเทศจีน มีมูลค่าถึง 425 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 1.37 หมื่นล้านบาท
สพฐ.เปิดตัวช่องทีวีดิจิตอลเพื่อการศึกษา
วันนี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สพฐ.จะแถลงข่าวการจัดการศึกษาทางไกลเพื่อสร้างความเข้าใจการจัดการศึกษาในสถานการณ์ปัจจุบันโดยจะเป็นช่องทีวีดิจิตอล ตั้งแต่ช่อง 37-53 เริ่มสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาลที่ 1 ,2 ,3 จนถึง ระดับการศึกษานอกโรงเรียน หรือ กศน. และอาชีวศึกษา
กังวลทวิตเตอร์ไทยแลนด์ สกัดการแสดงความคิดเห็น
รายงานข่าวแจ้งว่า ทวิตเตอร์ สื่อสังคมออนไลน์ชื่อดัง ได้เปิดบัญชีทางการใช้ชื่อว่า TwitterThailand เพื่อเป็นตัวกลางในการสนับสนุนผู้ใช้งานในประเทศไทย แต่อีกด้านหนึ่ง พบว่ามีแอคเคานท์ที่ไม่เปิดเผยตัวตน ที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ตั้งแฮชแท็ก ไม่เอาทวิตเตอร์ไทยแลนด์ เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยในการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ไม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลได้อย่างอิสระเสรีอีกต่อไป
ก่อนหน้านี้ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 12 ก.พ. ระบุว่า ได้หารือกับผู้บริหารทวิตเตอร์ประจำสิงคโปร์ใน 2 ประเด็น คือ รับมือ #ข่าวปลอม ไวรัสโคโรนา ทวิตเตอร์จะให้ข้อมูลที่ถูกต้องทาง #knowthefact อีกเรื่องคือเนื้อหาความรุนแรงและข่าวปลอมโศกนาฏกรรมโคราช ทวิตเตอร์มีนโยบายต่อต้านคนมีแนวคิดรุนแรง ตอนนี้เปิดช่องทางติดต่อฉุกเฉินกับรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว