ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 12.30 น. ประจำวันพุธที่ 13 พฤษภาคม 2563

13 พฤษภาคม 2563, 12:26น.


ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 12.30 น. ประจำวันพุธที่ 13 พฤษภาคม 2563



นายกฯแนะคนไทยต้องเดินหน้าสู่นิวนอร์มอลทำพฤติกรรมเดิมๆไม่ได้แล้ว



          พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวในระหว่างลงพื้นที่ที่วัดระฆังโฆสิตาราม เตือนว่า แม้สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 จะลดลง แต่อย่าประมาท ถึงตัวเลขจะเป็นศูนย์ก็ประมาทไม่ได้ เพราะเชื้อโรคยังสะสมอยู่ บางคนไม่แสดงอาการ ไม่ใช่ติดเชื้อน้อยแล้วจะผ่อนปรนมากขึ้นผมอยากให้เปิดใจจะขาดแต่ถ้ามีผู้ติดเชื้อแล้วจะทำอย่างไร



          นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่เป็นห่วงคือวันนี้เรากำลังเดินหน้าไปสู่ชีวิตยุคใหม่ วันข้างหน้าประชาชนอาจไม่ออกมานอกบ้านเหมือนเดิม ต้องมีการปรับปรุงขายของออนไลน์ เดลิเวอรี่ มีการปลูกพืชผักสวนครัวตามอพาร์ทเม้นท์ ตามบ้านเรือน และมีการจ่ายเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิคส์มากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องเตรียมความพร้อมในชีวิตวิถีใหม่ เราต้องเรียนรู้ในระบบเหล่านี้ เพื่อนำมาสร้างอาชีพสร้างรายได้ในอนาคต เพราะหากทำพฤติกรรมเดิมๆคงไม่ได้แล้ว ซึ่งเป็นห่วงเรื่องนี้ พร้อมฝากสื่อและสังคมช่วยกันเผยแพร่เรื่องเหล่านี้ด้วย



         ส่วนการขยายมาตรการการทำงานที่บ้านของภาคเอกชนและภาคธุรกิจ คิดว่าการทำงานที่บ้านไม่ใช่แค่การป้องกันโควิด-19 อย่างเดียว แต่นึกถึงการแก้ไขปัญหาการจราจร ทั้งนี้ได้สั่งการไปแล้วว่าการเรียนการสอนที่บ้าน เป็นสิ่งสำคัญที่ได้ให้นโยบายไป และขอให้ไปทบทวนว่าการเรียนการสอนในวิชาใดสามารถเรียนออนไลน์และเรียนโทรทัศน์ทางไกลผ่านดาวเทียมได้ ซึ่งจะช่วยลดเวลาที่ต้องไปโรงเรียน



          รวมถึงมาตรการเหลื่อมเวลาในการทำงานที่ทำให้การจราจรไม่ติดขัด แต่ต้องคำนึงถึงผู้ปกครองที่ส่งลูกหลานไปโรงเรียน เพื่อให้จัดระเบียบในองค์กรว่าพนักงานคนใดมีลูกวัยไหนเพื่อจัดเวลาเข้าทำงาน สั่งการกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ไปหาวิธีการที่จะให้โรงเรียนเปิดเหลื่อมเวลา โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่น วันนี้เราต้องคิดระยะยาวเพื่อลูกหลานของเราในอนาคต นักบริหารจะต้องคิดแบบนี้ แก้ปัญหา ทำปัจจุบัน และคิดอนาคต และเตรียมการสู่อนาคตไปในเวลาเดียวกัน นั่นคือ หลักการของผู้บริหารที่ดี



          วันนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์​โอชา​ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์ช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ ตามพระดำริของสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่วัดระฆังโฆสิตาราม นายกฯ ย้ำถึงเรื่องการจัดตั้งโรงทานและตู้ปันสุขได้สั่งการให้ดูแลเรื่องตู้ปันสุขให้มีคนเฝ้าและติดกล้องเพื่อบันทึกว่าใครมีพฤติกรรมอย่างไร ย้ำไม่อยากทำโทษใคร เพียงแต่วันนี้เราต้องไม่เห็นแก่ตัว ต้องนึกถึงคนอื่น ขณะที่เรื่องการกำหนดเปิดภาคเรียนตอนนี้ยังคงเป็นวันที่ 1 กรกฎาคม แต่ต้องติดตามสถานการณ์ แม้ว่าการแพร่ระบาดลดลงจนถึงศูนย์ก็ยังประมาทไม่ได้ ตนเองก็อยากเปิดแต่หากเปิดแล้วมีการแพร่ระบาดกลับมาจะทำอย่างไร สำหรับบรรยากาศขณะที่ประชาชนมารอรับของได้มีเจ้าหน้าที่จัดแถวโดยมีการเว้นระยะห่างทางสังคมด้วย



ตม.ตั้งตู้ปันสุข สตม. Love&Share



          เรื่องราวดีๆของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่ได้ช่วยเหลือประชาชนในยามวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาหรือโควิด-19 วันนี้ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดตัวโครงการตู้ปันสุข สตม.Love&Share จะมีการนำไปวางตั้งไว้ตามสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแต่ละจังหวัดทั่วประเทศ โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลจัดเว้นระยะห่างและดูแล ขอให้ประชาชนหยิบสิ่งของแต่พอดี อย่าหยิบเผื่อคนอื่น เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบที่มีการแชร์คลิปวีดิโอ มีผู้คนกวาดสิ่งของหมดตู้หรือคนมาแย่งสิ่งของกัน





"เลขาฯ สมช." เรียกประชุมคลายล็อกระยะ 2 หรือไม่ บ่ายนี้



          พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เปิดเผยว่า วันนี้ เวลา 13.30 น.มีการประชุมรับทราบผลการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเพื่อประเมินสถานการณ์ว่าจะคลายล็อกในระยะที่ 2 หรือไม่



          ผลการประเมินจะให้เสร็จภายในวันนี้และส่งให้ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 : ศบค.) ชุดใหญ่ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นผู้อำนวยการ ศบค.พิจารณา



สำหรับวันนี้ จะมีเที่ยวบินนำคนไทยตกค้างกลับไทย ดังนี้



ยูเครน 13 คน

ฟิลิปปินส์ 171 คน

อินเดีย 129 คน



ส่วนในวันพรุ่งนี้  14 พ.ค.



เยอรมนี 80 คน

บังกลาเทศ 197 คน



อินเดีย ประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 264,000 ล้านดอลลาร์



          หลังจากอินเดียเริ่มใช้มาตรการล็อกดาวน์ ปิดระบบคมนาคม ห้างร้านและโรงเรียนมาตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม รณรงค์ให้ประชาชนอยู่บ้านเพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจของประเทศ แรงงานอินเดียและแรงงานต่างด้าวหลายล้านคนถูกเลิกจ้าง นายกรัฐมนตรีนาเรนทรา โมดีของอินเดีย แถลงว่า รัฐบาลจัดทำแผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 20 ล้านล้านรูปี (หรือ 264,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมครัวเรือน,เกษตรกร, คนงานที่ถูกเลิกจ้างและธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี)ที่ได้รับผลกระทบให้ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้

          นายโมดี ระบุว่ามูลค่าโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 10 ของจีดีพีของอินเดีย สำหรับรายละเอียดต่างๆ นางนิรมาลา สิตารามัน รัฐมนตรีคลังอินเดีย จะแถลงให้ทราบในอีก 1-2 วันข้างหน้า

          ก่อนหน้านี้ รัฐบาล จัดงบประมาณ 1.7 ล้านล้านรูปี เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน รวมถึงโครงการโอนเงินโดยตรงให้กับประชาชนที่มีฐานะยากจนที่ลงทะเบียนไว้และโครงการจัดซื้ออาหารเพื่อแจกให้ประชาชน แต่หลายฝ่ายวิจารณ์รัฐบาลว่าควรจัดทำแผนการเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนให้มากกว่านี้ ระบุว่า เทียบกับรัฐบาลและธนาคารกลางของหลายประเทศทั่วโลกต่างออกมาตรการต่างๆเพื่อช่วยเหลือประชาชนในภาวะวิกฤตเช่นในปัจจุบัน ทั้งนี้ อินเดียมีผู้ป่วยสะสม 74,292 คน เสียชีวิต 2,415 ราย



'บุนเดสลีกา' เริ่มแข่ง 16 พ.ค. บิ๊กแมตช์'ดอร์ทมุนด์'พบ'ชาลเก้'



          การแข่งขันฟุตบอลบุนเดสลีกาเยอรมนี จะเริ่มกลับมาแข่งขัน หลังหยุดไป เนื่องจาก สถานการณ์โควิด-19 ระบาด โดยจะเริ่มแข่งในวันเสาร์ที่ 16 พฤษภาคมนี้ จะเป็นการพบกันระหว่าง"เสือเหลือง" โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ รองจ่าฝูง เปิดบ้านรับการมาเยือนของ"ราชันสีน้ำเงิน"ชาลเก้ 04



          ขณะที่ แชมป์เก่าจ่าฝูง"เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค จะลงเตะในวันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม พบกับ อูนิโอน เบอร์ลิน



          สำหรับสถานการณ์การลุ้นแชมป์ของบุนเดสลีกา ซีซั่น 2019/20 ตอนนี้แข่งไปแล้ว 25 นัด บาเยิร์น มิวนิค นำเป็นจ่าฝูงมี 55 คะแนน ตามมาด้วยอันดับ 2 โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 51 คะแนน

ข่าวทั้งหมด

X