กรมควบคุมโรค หาต้นตอคนแพร่เชื้อในสนามมวย คาดหลังปิดพื้นที่เสี่ยงผู้ป่วยรายใหม่จะลดลง

18 มีนาคม 2563, 14:36น.



          ช่วงนี้ประเทศไทยมีจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 มากขึ้น จนตอนนี้รัฐเริ่มมีการปิดสถานที่บางแห่งที่เป็นแหล่งสุ่มเสี่ยงแพร่เชื้อนพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า นับจากวันแรกของการปิดที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะสถานที่ที่มีการพบผู้ติดเชื้อไป 14 วัน จำนวนผู้ป่วยรายใหม่จะเพิ่มสูง แต่เมื่อพ้น 14 วันแล้ว ตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่จะต้องลดลง สถานการณ์จะดีขึ้น ซึ่งมีเงื่อนไขว่าผู้ที่อยู่ในสถานที่ดังกล่าวต้องให้ความร่วมมือปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขและต้องกักกันตัวเองด้วย ส่วนเจ้าหน้าที่จะเข้าไปทำความสะอาดฆ่าเชื้อในสถานที่ที่มีการระบาด เพราะมีโอกาสที่เชื้อยังตกค้าง





          อธิบดีกรมควบคุมโรค ย้ำด้วยว่า สัปดาห์ที่แล้ว ไทยพบผู้ป่วยมากขึ้น ซึ่งมาจากการที่ผู้ป่วยไม่ยอมกักกันตัวเอง ไม่เว้นระยะห่าง และยังพบผู้คน หากเป็นเช่นนี้ อนาคตการระบาดในไทยจะขยายวงกว้างจนอาจควบคุมโรคได้ยาก จึงขอประชาชนปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงอย่างเคร่งครัด ผู้ที่อยู่ในสนามมวยในวันที่ 6 มีนาคม และที่สถานบันเทิงย่านทองหล่อวันที่ 9-10 มีนาคม ให้กักกันตัวเองและสังเกตอาการ 14 วัน หากไม่สบายให้รีบมาพบแพทย์ทันที



          ด้านนพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ยอมรับว่า เป็นเรื่องยากในการสืบหาต้นตอผู้แพร่เชื้อโควิด-19 ในสนามมวย ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าใครเป็นผู้แพร่เชื้อ อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลเพื่อเชื่อมโยงแผนผังให้ชัดเจนขึ้น ส่วนผู้ติดเชื้อในสนามมวยตอนนี้มีทั้งสิ้น 40 คน ส่วนใหญ่พักอยู่ในกรุงเทพมหานคร ทั้งหมดอยู่ในการควบคุมของแพทย์แล้วและส่วนมากพบการติดเชื้อภายใน 1 สัปดาห์หลังเข้าไปในสนามมวย



          ส่วนที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) ฉะเชิงเทราติดเชื้อ อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า แนวทางการป้องกันแบ่งเป็น 2 ทาง



-ทางแรก ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจสั่งปิดทุกที่ในจังหวัดตามที่เห็นสมควร



-ทางที่สอง ตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้ติดตามตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องกับนายกอบจ.จนครบเพื่อตัดวงจรการระบาดของเชื้อแล้ว แนะนำให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องกักตัว 14 วัน



         ด้านนพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ระบุถึงการรักษาว่า ขอให้ผู้ป่วยไปใช้สิทธิที่โรงพยาบาลที่มีสิทธิอยู่ก่อน เพื่อลดความแออัดของผู้ป่วย ผู้ที่ไม่ป่วย ย้ำว่าไม่ต้องมาตรวจ เพราะการมาจะเพิ่มความเสี่ยง ส่วนสิทธิรักษากรณีฉุกเฉินใช้สิทธิ UCEP ได้ทุกโรงพยาบาล หากป่วยปกติให้ใช้สิทธิประกันที่มีก่อน หากไม่มีประกันให้สำรองจ่าย แล้วรัฐจะจ่ายคืนให้ภายหลัง ตอนนี้กำลังร่างแผนว่าจะนำเงินจากกองทุนใดมาจ่าย แต่การรักษาทั้งหมดย้ำว่าต้องใช้กับผู้ป่วยที่เป็นโรคโควิด-19 หรือผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่มีอาการเข้าข่ายเท่านั้น 





         ขณะที่นพ.มรุต จิรเศรษฐสิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ระบุว่า อาหารหลายอย่าง เช่น ผลไม้ตระกูลส้ม, ขมิ้นชัน, กระเพรา, มะขามป้อม, มะรุม, หอมแดง และโดยเฉพาะเมี่ยงคำไทย มีสารลดความเสี่ยงการติดเชื้อโรคโควิด-19 ได้



         กระทรวงสาธารณสุข แจ้งว่า วันพรุ่งนี้จะมีการจำลองเหตุการณ์เสมือนจริงเกี่ยวกับการช่วยเหลือและป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 ที่บริเวณกรุงเทพฯและปริมณฑล ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00น. โดยกระทรวงกลาโหมจะเป็นเจ้าภาพ




 

ข่าวทั้งหมด

X