คลังคาดคณะกรรมการนโยบายการเงินลดดอกเบี้ยตามเฟด
กรณีธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟดปรับลดดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 1 เดือน และทำให้ธนาคารกลางของหลายประเทศทยอยประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยและออกมาตรการอัดฉีดสภาพคล่องเพิ่มเติม นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. คาดว่าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ธนาคารแห่งประเทศไทย ในวันที่ 25 มีนาคมนี้ จะประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเช่นกัน ซึ่งจะช่วยสนับสนุนมาตรการดูแลเศรษฐกิจระยะที่ 2 ของกระทรวงการคลังที่จะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในเดือนนี้ โดยจะเป็นการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบทุกกลุ่ม
เงินบาทอ่อนสุดรอบ 10 เดือน
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เผยรายงานที่มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้โดยระบุว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 31.70-32.20 ต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับปิดอ่อนค่าที่ 31.79 ต่อดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 10 เดือน ท่ามกลางการร่วงลงอย่างรุนแรงของราคาหุ้นและพันธบัตร นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทย 24,700 ล้านบาท และ 33,200 ล้านบาท ตามลำดับ
ส่วนเงินดอลลาร์แข็งค่าเทียบทุกสกุลเงินสำคัญ ขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวนอย่างหนักจากความวิตกต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจของการแพร่ระบาดของโควิด-19
สำหรับค่าเงินบาทเคยแข็งค่าในระดับที่ทำให้ผู้ส่งออกมีความกังวล โดยเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2562 ทำสถิติแข็งค่าหลุด 30 บาทต่อดอลลาร์ไปอยู่ที่ 29.96 บาทต่อดอลลาร์ แต่ปัจจุบันอ่อนค่าลงหลังเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19
นักวิเคราะห์สนับสนุนรัฐใช้ยาแรงดึงความเชื่อมั่น
นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) เปิดเผยว่า ผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 เป็นปัจจัยเหนือการควบคุมที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการลงทุนในระยะสั้น การที่เฟดและธนาคารกลางทั่วโลกทยอยประกาศมาตรการการเงินไม่สามารถชะลอการเทขายหุ้นหรือ ส่งผลเชิงบวกต่อเศรษฐกิจในทันที เนื่องจากคนขาดความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไปแล้ว มาตรการเร่งด่วนในเวลานี้จึงได้แก่ มาตรการควบคุมโรค นโยบายการคลัง เช่น การออกมาตรการลดภาษี และลดการซ้ำเติมเศรษฐกิจจากปัญหาราคาน้ำมัน
ทั้งนี้โครงสร้างเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย พึ่งพารายได้จากต่างประเทศในสัดส่วนที่สูงมาก โดยเฉพาะการท่องเที่ยว แม้ราคาน้ำมันจะปรับลดลงแต่ก็ไม่ได้ช่วยมากนัก โดยมาตรการจะเข้ามาช่วยพยุงได้มากที่สุดมองว่าเป็นมาตรการการคลังมากกว่ามาตรการทางการเงิน
ท่องเที่ยวคาดรายได้ปีนี้ลดลงร้อยละ 23 จากปีก่อน
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประเมินสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 จะคลี่คลายลงในไตรมาส 3 นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ปรับแผนรับมือผลกระทบจากการระบาดที่มีต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว เพื่อเตรียมเสนอเข้าหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ต้นเดือนเมษายนนี้ โดยก่อนหน้านี้ มีการคาดการณ์ที่ระบุว่าสถานการณ์ของโรคจะควบคุมได้ประมาณเมษายน-พฤษภาคม จึงใช้แผนกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ สร้างการรับรู้และสร้างความมั่นใจให้คนไทย แต่หากสถานการณ์นานไปถึงครึ่งปีหลัง หรือปลายปี อาจต้องปรับแผนและของบฉุกเฉินเพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวต่อไป
ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยคาดว่าตลอดทั้งปีจะมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้าประเทศไทยประมาณ 30 ล้านคน ลดลงร้อยละ 24 จากปี 2562 ที่มีจำนวน 39 ล้าน 8 แสนคน และจะมีรายได้ 1 ล้าน 4 แสน 8 หมื่นล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 23 จากปีก่อนที่มีรายได้ 1 ล้าน 9 แสน 3 หมื่นล้านบาท
สทนช.ของบกลางแก้แล้ง 3 จังหวัดเหนือ
นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. เปิดเผยว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ (17 มี.ค.) คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ จะเสนอของบกลางมากกว่า 16,165 ล้านบาท ในโครงการเร่งด่วนเพื่อกักเก็บน้ำในฤดูฝน และโครงการสนับสนุนพื้นที่เสี่ยงภัยแล้งปี 2563 โดยจะเป็นการช่วยเหลือพื้นที่ที่ประสบภัยแล้ง 23 จังหวัด และสวนผลไม้ที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งประมาณ 30 จังหวัด
จุดความร้อนทางเหนือลดลง
กรมควบคุมมลพิษกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รายงานสถานการณ์ฝุ่นควันภาคเหนือ ว่าพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นสีแดง เนื่องจากปัญหาการเผา นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ผลจากการเร่งดับไฟในทุกพื้นที่ ร่วมกับการควบคุมไม่ให้มีการเผาเพิ่มเติม ส่งผลให้จุดความร้อนในประเทศไทยลดลงต่อเนื่อง ยกเว้นที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งยังได้รับผลกระทบจากฝุ่นควันข้ามแดน ทำให้ฝุ่นละอองเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังพบจุดความร้อนประปรายในพื้นที่ชายแดนไทย-ลาว จึงขอความร่วมมือให้งดการเผาทุกชนิด
..