นายกฯ ระบุประเทศไทยต้องชนะ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวแถลงการณ์สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 โดยสรุปว่า ที่ผ่านมาไทยชะลอการแพร่กระจายของโรคได้ดี ด้วยระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็ง และความร่วมมือของทุกฝ่าย แต่ในรอบสัปดาห์นี้มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเนื่องจากการรวมตัวของประชาชนจำนวนมาก และทั่วโลกมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น สร้างความตื่นตระหนกให้ประชาชน ซึ่งจากการที่องค์การอนามัยโลก ประเมินสถานการณ์ของโรคว่าจะระบาดเป็นวงกว้าง เพื่อเป็นการลดความสูญเสีย รัฐบาลจำเป็นต้องดำเนินมาตรการเข้มข้น ให้งดกิจกรรมในสถานที่ที่มีการชุมนุมจำนวนมาก ปิดสถานที่ที่เสี่ยงสูง เช่น สถานบันเทิง สนามกีฬา และสถานศึกษา ยกระดับการคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศอย่างเข้มข้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเทศไทยจะชนะด้วยความร่วมมือของประชาชน โดยให้งดเดินทางไปต่างประเทศ กรณีกลับจากประเทศเสี่ยงต้องกักตัว 14 วัน รักษาสุขอนามัยส่วนตัว ป้องกันตัวเอง หลีกเลี่ยงการไปสถานที่แออัด ผู้เจ็บป่วย ไม่สบาย ควรอยู่บ้าน อย่ากักตุนของ อย่าวิตกกังวลจนเกินไป การระบาด จะดำเนินไปอีกระยะหนึ่ง ขอให้คนไทยอดทน ร่วมกันฟันฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน ประเทศไทยต้องชนะ
ออก 5 มาตรการเตรียมพร้อมและดูแลคนไทยทั้งในและต่างประเทศ
ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ที่มีนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ประกาศ 5 มาตรการสำคัญ ได้แก่
มาตรการสาธารณสุข ให้โรงพยาบาลของรัฐ เอกชน ท้องถิ่น โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย ทหาร ตำรวจ สถานพยาบาล ปรับสถานที่เพื่อให้มีเตียงเพียงพอรับสถานการณ์ กับให้เตรียมพร้อมบุคลากรทางการแพทย์ ระดมแพทย์อาชีพ แพทย์ภาครัฐ เอกชน แพทย์เกษียณอายุราชการ จิตอาสาที่มีความรู้ด้านการแพทย์
มาตรการด้านเวชภัณฑ์ หน้ากากอนามัย เจลล้างมือ ให้กระทรวงพาณิชย์ เร่งกำลังผลิตมากขึ้น ซึ่งนอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ยังให้นำหน้ากากอนามัยที่ยึดไว้เป็นของกลางในการตรวจจับคดีต่าง ๆ ไปจัดสรรแจกจ่ายไปยังโรงพยาบาล พร้อมให้ดำเนินคดีผู้กระทำความผิดต่อไป อย่าให้เสียรูปคดี
มาตรการด้านข้อมูลข่าวสาร ซึ่งมีการร้องเรียนเข้ามาที่ศูนย์ข้อมูลวันละประมาณหนึ่งพันราย ได้ชี้แจงทำความเข้าใจ และแก้ปัญหาไปแล้วร้อยละ 98
มาตรการด้านการต่างประเทศ กระทรวงต่างประเทศรายงานว่า มีต่างประเทศที่แสดงความปรารถนาดีช่วยเหลือด้านเวชภัณฑ์คือ ยา หน้ากากอนามัย อุปกรณ์ทางการแพทย์ แต่นายกรัฐมนตรีกำชับว่าจะรอรับอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเร่งผลิตเองด้วย ทั้งแสดงความเป็นห่วงคนไทยในต่างประเทศ ทั้งนักเรียน นักศึกษา พระภิกษุ แรงงานไทย และข้าราชการจำนวนนับแสนคน จึงให้กระทรวงต่างประเทศตั้งทีมไทยแลนด์ในทุกประเทศโดยมีเอกอัครราชทูตประเทศนั้นๆ เป็นหัวหน้าทีม เพื่อรับเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์ ตลอดจนให้ข้อมูลข่าวสาร
และมาตรการป้องกันสำหรับผู้ที่ยังไม่ป่วย
งดวันหยุดสงกรานต์ / ปิดโรงเรียน-มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมฯ ยังเห็นชอบให้งดวันหยุดราชการช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน โดยจะชดเชยวันหยุด หรือชดเชยแรงงานตามสิทธิที่พึงได้ในโอกาสอื่นเมื่อสถานการณ์บรรเทาเบาบางลง
กับให้ยกระดับป้องกัน การปิดหรือหยุด หรือระงับการเปิดสถานที่บางแห่ง ซึ่งเป็นที่ชุมนุมชน หรือคนไปอยู่รวมกันจำนวนมาก โดยในวันนี้จะมีการนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี คือการหยุดหรือปิดกิจการชั่วคราว เริ่มได้ตั้งแต่วันพุธที่ 18 มีนาคม เช่น มหาวิทยาลัย โรงเรียนรัฐและเอกชน โรงเรียนนานาชาติ สถาบันกวดวิชา สนามมวย สนามกีฬา ส่วนสถานที่อื่น ร้านค้า ร้านอาหาร หรือสถานที่ไม่เข้าเกณฑ์ ยังสามารถเปิดดำเนินการได้ตามปกติ แต่ต้องมีมาตรการรองรับ เช่น วัดไข้ สวมหน้ากากอนามัย จัดที่นั่งให้ห่างกัน 1 เมตร หรือ 1 เมตรเศษ มีเจลล้างมือ โดยให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจเป็นระยะ หากพบฝ่าฝืนจะสั่งปิดหรือดำเนินการเป็นรายๆ ไป โดยอาศัยอำนาจ พ.ร.บ.โรคติดต่อ มาตรา 35
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีให้ทุกกระทรวงไปพิจารณาเรื่องการให้งานไปทำที่บ้าน ส่วนบริษัทเอกชนที่จะมีการประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นที่มีกำหนดการประชุมประจำปีในเดือนเมษายน ขอให้เลื่อนประชุมออกไป หรือถ้าจำเป็นจริงๆ ขอให้ประชุม ทางไกลผ่านวีดิโอคอนเฟอเรนซ์ โดยขอให้โควิด-19 เป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วนที่สุดอันดับหนึ่งของประเทศ ส่วนเรื่องอื่น เศรษฐกิจ ผลกระทบการท่องเที่ยว การค้าขายสำคัญเป็นลำดับสอง เราต้องเอาชีวิตของประชาชนให้รอดก่อน เพราะไม่รู้ว่าสถานการณ์นี้จะนานขนาดไหน เมื่อสถานการณ์เบาบางลง ก็จะอัดฉีดเร่งรัด เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจได้
ไทยป่วยเพิ่มวันเดียว 33 คนสะสม 147 คนแล้ว
นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาระดับกระทรวงและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อ 154 ประเทศ ไทยอยู่ในอันดับ 45 โดยมีผู้ป่วยสะสม 147 คน เฉพาะเมื่อวานนี้ (16 มี.ค.) มีผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่อีก 33 คน หายป่วยแล้ว 38 คน ยังอยู่ที่โรงพยาบาล 108 คนและเสียชีวิต 1 ราย ยืนยันว่า ระยะเกณฑ์แพทย์ยังอยู่ในระยะที่ 2 โรคนี้ป้องกันรักษาได้ และมียารักษา
สำหรับผู้ป่วยใหม่ 33 คน แบ่ง 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่มีประวัติสัมผัสผู้ป่วย กับกลุ่มที่เดินทางต่างประเทศ ใกล้ชิดคนต่างชาติ
พล.อ.ณฐพนธ์ ศรีสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก แถลงว่า พล.ต.ราชิต อรุณรังษี เจ้ากรมสวัสดิการทหารบก ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จริง โดยรายงานตัวเพื่อเข้ารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ขณะที่ครอบครัวของพล.ต.ราชิต ไม่พบว่ามีการติดเชื้อ แต่ต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน 14 วัน
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า มี รอง สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ติดไวรัสโควิด-19 จริง ขณะนี้รักษาอาการอยู่ที่ รพ.ตำรวจ เจ้าพนักงานคนอื่น ๆ ในหน่วยงาน กักตัวเองอยู่ในสถานที่ที่ทำการหรือที่พักเป็นเวลา 14 วัน
....