ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 มีมติเลื่อนวันหยุดสงกรานต์ 13-15 เม.ย. เตรียมปิดสถานที่เสี่ยงที่คนอยู่รวมกันจำนวนมาก

16 มีนาคม 2563, 17:12น.


          นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ แถลงสรุปผลการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ครั้งที่ 1 ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เป็นประธานการประชุม ดังนี้



รัฐบาล ยืนยันการแพร่เชื้อโควิด-19 อยู่ในระยะที่ 2 จะเป็นขั้นที่ 3 ก็ต่อเมื่อ



- ปรากฏว่าติดต่อโรคกันเอง โดยไม่มีผู้แพร่เชื้อจากต่างประเทศ



- การแพร่เชื้อต้องจำนวนมาก



- การปรากฏหลากหลายพื้นที่



1.การเตรียมการเพื่อรับมือด้านสาธารณสุข



-กระทรวงสาธารณสุข เตรียมโรงพยาบาล สถานพยาบาล ของรัฐ เอกชน และ ท้องถิ่น  



-เตรียมหมอ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ พร้อมทั้งระดมทีมแพทย์อาชีพทั้งของภาครัฐ เอกชน ที่เกษียณอายุ



2.ด้านเวชภัณฑ์



-เตรียมยาและเวชภัณฑ์ให้เพียงพอในการรักษาผู้ป่วย  



-กระทรวงพาณิชย์ เร่งผลิตหน้ากากอนามัยเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 2 ล้านชิ้น รวมทั้ง เจลแอลกอฮอล์ 



-นายกฯ สั่งการให้นำหน้ากากอนามัยของกลางมาใช้ได้ แต่ยังต้องดำเนินคดีต่อไปไม่ให้เสียรูปคดี



3.ด้านข้อมูลข่าวสาร



-หน่วยงานที่รับเรื่องจากประชาชนในแต่ละวันแจ้งมา 1,000 ราย ปรึกษาเรื่องการเดินทาง



4.ด้านต่างประเทศ



-หลายประเทศ แสดงความปรารถนาดีในการช่วยเหลือ ด้านยา และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ขณะที่ไทยก็จะผลิตชุด PPE ป้องกันการติดเชื้อให้เพิ่มมากขึ้นด้วย



-นายกฯสั่งกระทรวงการต่างประเทศ ตั้งทีมไทยแลนด์ โดยมีเอกอัครราชทูตของแต่ละประเทศเป็นหัวหน้าทีม ประสานข้อมูลดูแลคนไทยในต่างประเทศ เช่น ข้าราชการประจำสถานทูตและครอบครัว นักเรียนไทย พระภิกษุ และ แรงงานไทย 



-การยกเลิก Visa on Arrival ได้ประสานกับประเทศต่างๆแล้ว ไม่มีประเทศไหนขัดข้อง ประเทศไทย ยังไม่ประกาศเขตติดโรคติดต่อเพิ่มเติม หลังจากที่เคยประกาศไปแล้วว่ามี 4 ประเทศรวมถึง 2 เขตปกครองพิเศษ ประกอบด้วย จีน ฮ่องกง มาเก๊า เกาหลีใต้ อิหร่าน และ อิตาลี โดยไทยจะประเมินสถานการณ์เป็นรายวัน และจะใช้มาตรการเข้มงวดมากขึ้น เช่น นักท่องเที่ยวที่ไม่ได้เดินทางมาจากประเทศดังกล่าวต้องมีใบรับรองแพทย์ ประกันสุขภาพ และติดตั้งแอปพลิเคชั่น ในการติดตามตัว  



5.มาตรการป้องกัน



-รัฐบาล เสนอ คณะรัฐมนตรี(ครม.)พรุ่งนี้ งดวันหยุดสงกรานต์ 13-15  เม.ย.พร้อมเสนอวันหยุดชดเชยในช่วงวันหยุดยาว  



-เตรียมปิดโรงเรียน- มหาวิทยาลัย ทั้งของรัฐและเอกชน ทั่วประเทศ เริ่ม 18 มี.ค. รวมทั้งโรงเรียนกวดวิชา   



-กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พิจารณาหลักเกณฑ์ การปิดสนามมวย สนามกีฬา โรงภาพยนตร์ 



กำหนดเกณฑ์ในการปิดสถานที่บางแห่งชั่วคราวเพื่อป้องกันการระบาด 


          เกณฑ์ 1 สถานที่ที่มีคนไปชุมนุมจำนวนมากเป็นกิจวัตรและมีโอกาสเสี่ยงสูงในการสัมผัสเชื้อ รวมทั้งมีทางเลือกไม่ให้คนมาชุมนุมได้ จะเสนอให้ปิดสถานที่เหล่านี้เป็นการชั่วคราว ตัวอย่างสถานที่ที่จะเสนอให้ปิด มหาวิทยาลัยทั้งของรัฐและเอกชน , โรงเรียนทั้งรัฐและเอกชน รวมทั้งโรงเรียนนานาชาติ โดยให้ใช้การเปิดสอนออนไลน์แทน,สถาบันกวดวิชา


         เกณฑ์ 2 สถานที่ที่มีคนมาชุมนุมคราวละมากๆ มีการชุมนุมทำกิจกรรมที่มีโอกาสแพร่เชื้อทางการสัมผัส และสารคัดหลั่ง ตัวอย่าง สนามมวยทั่วประเทศ สนามกีฬาที่มีการสัมผัสถึงกัน, โรงภาพยนตร์


          สถานที่อื่นนอกจากนี้ เช่น ร้านค้า ร้านอาหาร หรือสถานที่ใดๆที่ไม่ได้เข้าเกณฑ์ เปิดดำเนินการได้ปกติ แต่ต้องมีมาตรการป้องกัน เช่น ตรวจวัดไข้ มีเจลล้างมือให้บริการ


-นายกรัฐมนตรี กำชับ ครม.ในวันพรุ่งนี้ ให้ทุกหน่วยงานราชการ กระทรวง ทบวง กรม และรัฐวิสาหกิจ เหลื่อมเวลาการทำงานและการรับประทานอาหารกลางวัน รวมทั้งให้หน่วยงานรัฐ พิจารณาให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสังกัดทำงานที่บ้านได้  และให้รายงานผลทุกเรื่องกลับมาทุก 7 วัน  


6.มาตรการเยียวยา



-ที่ประชุมเห็นว่าในช่วงเดือนเมษายนของทุกปีจะมีการประชุมผู้ถือหุ้นในบริษัทต่างๆจำนวนมากจึงขอความร่วมมือให้ทุกบริษัทเลื่อนการประชุมออกไปก่อน หรือหากจำเป็นต้องประชุมก็ให้ปฏิบัติตามประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่เคยประกาศให้บริษัทสามารถจัดประชุมผ่านวีดิโอทางไกลได้ เพื่อเลี่ยงการอยู่ร่วมกันของคนจำนวนมาก หรือหากต้องมาประชุมด้วยตัวเองผู้จัดประชุมจะต้องจัดให้มีหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือให้ผู้เข้าร่วมประชุม และที่นั่งต้องห่างกันอย่างน้อยคนละ 1 เมตร 


-ส่วนการเยียวยาประชาชน กระทรวงต่างๆ เช่น กระทรวงการคลัง จะหาทางช่วยลดหย่อนค่าเช่าที่ต่างๆ เช่น บ้านหรือตลาดที่ผู้ให้เช่าเป็นหน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานท้องถิ่น และจะช่วยเจรจากับผู้ให้เช่าที่เป็นเอกชนเพื่อลดหย่อนค่าเช่าให้ประชาชนมากที่สุด    


          นายวิษณุ ย้ำว่า ชีวิตและสุขภาพของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ เรื่องอื่นเป็นเรื่องรอง ผลประชุมทั้งหมดในวันนี้จะรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบในการประชุมพรุ่งนี้ 


         ด้านนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ประชาชนไม่ต้องกักตุนอาหาร เพราะสถานการณ์ยังไม่ไปถึงขั้นนั้น แต่ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข โดยเฉพาะการหมั่นล้างมือและใส่หน้ากากอนามัยเป็นประจำ


 

ข่าวทั้งหมด

X