หลังจากที่เมื่อช่วงเย็น เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ประชาชื่น และเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร จับตัวนายกฤษดา ม่วงแพร ผู้ต้องขังคดีลักทรัพย์ บริเวณริมถนน ปากซอยพหลโยธิน 66 ย่านสายไหม และควบคุมตัวกลับมาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ สั่งกำชับเจ้าหน้าที่ให้เพิ่มความระมัดระวังในการเฝ้าระวังผู้ต้องขังที่ออกมาฝึกวิชาชีพภายนอกเรือนจำ รวมถึง ผู้ต้องขังที่โทษเหลือน้อยและจะเพิ่มมาตรการที่เหมาะสมในการป้องกันเหตุ เพิ่มการควบคุมตัวให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น การหลบหนี ไม่ใช่ทางออกที่ถูกต้อง จากสถิติการหลบหนีตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2562 มีผู้ต้องขังหลบหนีจำนวน 9 ราย ยังไม่มีผู้ต้องขังที่หนีได้สำเร็จ การหลบหนีจะยิ่งทำให้กระบวนการนำผู้ต้องขังมาฝึกวิชาชีพภายนอกเรือนจำและทำให้สังคมยอมรับยากยิ่งขึ้น นายกฤษดา หลบหนีระหว่างออกมาฝึกอาชีพที่พิเศษกรุงเทพคาร์แคร์ที่ตั้งอยู่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ และยอมรับหลังจากที่ถูกจับได้ว่าเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ คิดถึงบ้านและครอบครัวจึงหนีออกมา มีการเปลี่ยนเครื่องแต่งกายที่ไม่ใช่ชุดที่ใช้ตอนหลบหนี