หลังมีข่าวเยาวชนอายุ 18 ปี เสพติดสารระเหยจนคุมสติไม่ได้แล้วเกิดอาการหลอนทำร้ายแม่ตัวเองเสียชีวิต ล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.) ออกมาย้ำเตือนอันตรายจากการใช้สารระเหย นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการป.ป.ส. ชี้แจงว่า สารระเหยเป็นสารที่ได้จากการสกัดน้ำมันปิโตรเลียม มักพบอยู่ในรูปของกาวอินทรีย์สังเคราะห์ หรือทินเนอร์ หากสูดดมนานจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก เพราะสารส่งผลหลายอย่างต่อร่างกาย โดยเฉพาะทำให้สูญเสียความทรงจำและประสาทสัมผัสบางส่วน ไม่สามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ทั้งยังทำให้เกิดภาวะซึมเศร้า, ควบคุมตัวเองไม่ได้ กล้ามเนื้ออ่อนแรงไปถึงขั้นหมดสติและมีอาการทางจิต หากผู้ใดขายสารระเหยให้กับเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี จะมีความผิดตามกฎหมาย โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เช่นเดียวกับคนที่หลอกลวงให้ผู้ที่มีอายุไม่เกิน 18 ปี สูดดมก็จะมีโทษอัตราเดียวกัน ส่วนคนที่นำสารไปสูดดมหรือทำวิธีอื่นใดเพื่อความเพลิดเพลินก็จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่หากผู้เสพคนใดสมัครใจเข้าบำบัดจะไม่ถือว่ามีความผิดและไม่เสียประวัติ หากพบคนรอบข้างเสพติดหรือสูดดมให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่หรือนำเข้ารักษาโดยเร็ว และสามารถโทรขอคำปรึกษาได้ที่สายด่วน 1165 หรือแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับยาเสพติดได้ที่สายด่วนโทร 1386 ตลอด 24 ชั่วโมง
เลขาธิการป.ป.ส. บอกว่า แม้ไทยยังมีผู้เสพติดสารระเหยไม่กี่พันคน แต่ด้วยความอันตรายของสารที่จะเกิดกับผู้เสพ จึงต้องระวังไม่ให้จำนวนผู้เสพขยายตัวมากกว่านี้
...