ซีเอ็นบีซี รายงานว่า สถานการณ์ไวรัสโคโรนา ทำให้ค่าเงินบาทของไทยที่แข็งแกร่งที่สุดในเอเชียเมื่อปี 2562 ที่ระดับร้อยละ 7.9 กลายมาเป็นหนึ่งในสกุลเงินที่อ่อนสุดของภูมิภาคในปีนี้ โดยค่าเงินบาทอ่อนค่าลงประมาณร้อยละ 4.1 เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ และแม้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะลดดอกเบี้ยนโยบายเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทำให้ดอกเบี้ยอยู่ในอัตราต่ำสุดตลอดกาล แต่จากสถานการณ์ปัจจุบันทำให้มีแนวโน้มที่ธนาคารฯ จะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงไปอีก
นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของนาติซิส ซึ่งเป็นบริษัทวาณิชธนกิจของฝรั่งเศส กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยพึ่งพิงจีนมากเกินไป โดยมีรายได้การท่องเที่ยวจากจีนประมาณร้อยละ 2.7 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพี และมีการส่งออกสินค้าและผลิตภัณฑ์ไปจีนร้อยละ 6 ของจีดีพี นอกจากนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ของไทย ยังประเมินว่านักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงอาจทำให้สูญเสียรายได้ 50,000 ล้านบาท นักเศรษฐศาสตร์จึงคาดว่าผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัสโคโรนาจะทำให้จีดีพีของไทยเหลือเพียงร้อยละ 2.2 ในปีนี้ ซึ่งหมายความว่าการเติบโตของไทยจะต่ำกว่าเป้าที่ธนาคารโลกคาดไว้ และธนาคารแห่งประเทศไทยน่าจะต้องลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งเพื่อกระตุ้นการเติบโต
ด้านนักเศรษฐศาสตร์เอเชียของไอเอ็นจี มีความเห็นว่า ในการประชุมของธนาคารแห่งประเทศไทยในเดือนมีนาคม จะมีการประกาศลดดอกเบี้ยอีกครั้ง เพราะเป็นเวลาที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพในการกระตุ้นเศรษฐกิจมากกว่า แต่ไอเอ็นจี ชี้ว่า สถานการณ์ไวรัสอาจเป็นโอกาสที่ไทยจะลดการพึ่งพาภาคอุตสาหกรรมที่มีความผันผวนอย่างการท่องเที่ยว และมีการกระจายแหล่งรายได้เพื่อให้สามารถสร้างการเติบโตได้ด้วยตัวเอง
.....