ป่วยโคโรนาในไทยนิ่ง
สถานการณ์ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในไทย นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า จำนวนผู้ป่วยสะสมในไทยอยู่ที่ 32 คน เป็นคนจีน 23 คน คนไทย 9 คน รักษาหายกลับบ้านแล้ว 10 คน เหลือรักษาในโรงพยาบาล 22 คน ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรครวม 679 คน คัดกรองจากสนามบิน 51 คน เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลด้วยตัวเอง 628 คน ให้กลับบ้านแล้ว 284 คน รักษาในโรงพยาบาล 395 คน โดยในกลุ่มผู้ป่วยคนไทย 9 คน เป็นผู้ที่ไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศ 5 คน ซึ่งจะต้องเพิ่มการเตือนคนทำงานใกล้ชิดนักเดินทาง นักท่องเที่ยว หากมีไข้ ไอ เจ็บคอ หายใจลำบาก ต้องมาปรึกษาแพทย์โดยด่วน และสวมหน้ากากอนามัย
และในกลุ่มผู้ป่วยสะสม 32 คน พบว่า 1 ใน 3 มาจากการวินิจฉัยในกลุ่มผู้เข้าเกณฑ์สอบสวนโรคมีการสัมผัสใกล้ชิด สะท้อนถึงความเข้มแข็งของระบบสอบสวนติดตามผู้สัมผัส ก่อนที่คนไข้จำนวน 1 ใน 3 นี้จะแพร่โรคในชุมชน
คนไทยจากอู่ฮั่นติดเชื้อ1-สอบโรค5
ที่สโมสรโรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ จ.ชลบุรี นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่าในกลุ่มคนไทย 138 คนที่กลับจากเมืองอู่ฮั่น และเมื่อค่ำวันที่ 8 กุมภาพันธ์ มีการยืนยันผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาจำนวน 1 คน นอนพักในห้องแยกใน รพ.ชลบุรี อาการทั่วไปปกติ ส่วนอีก 5 คน ที่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค รักษาตัวใน รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ และ รพ.สัตหีบ กม. 10 อาการปกติ ไม่มีไข้ รับประทานอาหารได้ ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการไม่พบเชื้อ แพทย์เตรียมส่งเฝ้าระวังต่อเนื่องที่เรือนรับรองหลังใหม่ ส่วนอีก 132 คน ในอาคารรับรองฐานทัพเรือทั้งหมด อาการปกติ ไม่มีไข้ รับประทานอาหารได้ และจะปล่อยตัวกลับบ้านเมื่อครบกำหนด โดยกระทรวงสาธารณสุขร่วมกับฐานทัพเรือในการจัดบริการรถรับ-ส่ง ให้ถึงจุดหมายตามที่ความต้องการ
กต.แจง WHO ยังไม่มีประกาศห้ามการเดินทาง
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงว่าองค์การอนามัยโลก WHO ยังไม่มีการประกาศห้ามเดินทางเข้าประเทศและออกจากประเทศใดๆ ขณะที่ประเทศไทยมีการติดต่อประสานงานกับเครือข่ายนานาชาติมาโดยตลอด และได้รับการยกย่องว่ามาตรฐานด้านการแพทย์และสาธารณสุขมีความพร้อมในการรับมือโรคระบาดดีเยี่ยมเป็นอันดับ 6 ของโลก ประเทศไทยจึงมีความพร้อมในการดูแลพลเมืองไทยและประชาชนที่มาจากประเทศอื่นในไทย และสามารถแลกเปลี่ยน แนวปฏิบัติชั้นเลิศ (best practices) กับนานาประเทศ เพื่อพิชิตเชื้อโรคร้ายและรักษาผู้ติดเชื้อให้หายขาดได้อย่างมีประสิทธิภาพเต็มที่
นายกฯห่วงใยอาเซียน
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในนามของรัฐบาลและประชาชนชาวไทยทุกคน ขอส่งกำลังใจและความห่วงใยไปยังมิตรประเทศอาเซียน ประเทศกรอบความร่วมมืออาเซียน +3 และทุกประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ยืนยันว่ารัฐบาลไทยพร้อมสนับสนุนความร่วมมืออย่างสร้างสรรค์ เพื่อให้สถานการณ์ในทุกประเทศคลี่คลายโดยเร็ว
จำหน่ายหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ
การจำหน่ายหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันนี้ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กระจายหน้ากากอนามัยจำนวน 2 แสนชิ้นไปตามจุดขายต่าง ๆ และร้านธงฟ้าอีก 5 แสนชิ้น
ส่วนการจับกุมดำเนินคดีผู้ค้าที่ขายเกินราคา มีการจับกุมแล้ว 11 ราย โดยผู้ที่กักตุนสินค้าเพื่อจำหน่ายราคาสูงเกินไปจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสน 4 หมื่นบาท ไม่แสดงราคาจำหน่าย ปรับไม่เกิน 10,000 บาท ไม่แจ้งข้อมูลจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืน หรือจนกว่าจะแจ้ง หากไม่ขออนุญาตขนย้ายหรือไม่ปันส่วน จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เวลา 13.00 น. นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจสอบผู้ประกอบธุรกิจขายหน้ากากอนามัย และเจลล้างมือ ณ ตลาดวังหลัง (ข้างโรงพยาบาลศิริราช) เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ
ป.ป.ช.จ่อสอบ ปม ส.ส.เสียบบัตรแทนกัน
กรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ไต่สวนพฤติกรรมการเสียบบัตรลงคะแนนแทนกันของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ระหว่างการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งโดยทั่วไป ป.ป.ช.จะเก็บข้อมูลตามที่ปรากฏเป็นข่าวไว้อยู่แล้ว หากพบประเด็นใดมีเหตุควรสงสัยก็มีอำนาจหยิบยกมาพิจารณาเองได้
เดินหน้าพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณฯ
นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวว่า พ.ร.บ.งบประมาณฯ จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 13-14 กุมภาพันธ์ หากการพิจารณายังไม่เสร็จก็สามารถต่อไปถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ และสามารถเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาได้ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ คาดว่าภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ทุกอย่างจะเรียบร้อย
...