จากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ไวรัสโคโรนา นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต แนะนำ 3 มาตรการ คือ I am, I have, I can I am ในการประเมินสุขภาพของตนเองว่าแข็งแรง และอยู่ในกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อหรือไม่ โดยบุคคลที่เป็นกลุ่มเสี่ยงคือผู้ที่ต้องใกล้ชิดหรือสัมผัสกับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ควรใส่หน้ากากอนามัยตลอด และกระทรวงจัดอยู่ในข่ายเฝ้าระวังแล้ว, I have คือขอให้มั่นใจว่าไทยมีระบบด้านสาธารณสุขที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ส่วน I can คือ การป้องกันตัวเองตามหลักการแพทย์ที่เป็นการกินร้อน, ช้อนกลาง และหมั่นล้างมือ ซึ่งเป็นวิธีป้องกันตัวจากเชื้อไวรัสที่ดีที่สุด
ด้านนพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค แนะนำว่า คนที่ไม่ป่วยและไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากาก ตรงข้ามกับคนป่วยและคนที่แม้สบายดีแต่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงควรใส่หน้ากากอนามัยตลอด พร้อมทำความเข้าใจว่าการจะติดไวรัสโคโรนาได้ ผู้แพร่เชื้อกับผู้รับเชื้อต้องอยู่ใกล้กันระยะ 1-2 เมตรในที่ปิดเป็นเวลาราว 5 นาที และทั้งสองต้องพูดคุยหรือไอ, จาม ใกล้กัน

ส่วนกรณีที่มีเด็กแรกเกิดในจีนติดเชื้อหลังคลอดมา 30 ชั่วโมง นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ บอกว่า เป็นไปได้ว่าเชื้ออาจติดมาจากเลือดของมารดาหรือรกช่วงก่อนคลอด หรือหลังคลอดผู้ติดเชื้อไปสัมผัสตัวเด็ก ต้องรอข้อมูลที่ชัดเจนอีกครั้ง แต่ประเมินว่าอนาคตไวรัสนี้จะกลายเป็นโรคธรรมดา เหมือนโรคระบาดต่าง ๆที่เคยเกิดในอดีตแต่ไม่รุนแรงแล้ว ความเสี่ยงที่จะติดเชื้อขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ติดเชื้อที่ไม่ได้รับการรักษาในโรงพยาบาล โดยในกรณีของไทยซึ่งประชาชนสามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้ง่าย สามารถคุมผู้ติดเชื้อให้อยู่ในวงจำกัดได้ เห็นได้จากยอดผู้ติดเชื้อของไทยที่อยู่ในอันดับ 4 ของโลกแล้ว ส่วนยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในไทยตอนนี้ยังเท่าเดิม 25 คน แบ่งเป็นกลับบ้านแล้ว 9 คน อีก 16 คนยังนอนโรงพยาบาล ทั้ง 16 คนมีอาการดีขึ้น ส่วนชายไทยที่เป็นคนขับรถบัสอาการยังทรงตัว แพทย์ต้องดูแลใกล้ชิด ส่วนผู้ติดเชื้อชาวจีนที่แพทย์ให้ยาต้านโรคเอดส์ในการรักษา อาการก็ดีขึ้นเตรียมออกจากห้องแยกโรคเร็วๆนี้ เช่นเดียวกับ 4 คนไทยที่กลับมาจากอู่ฮั่นแล้วป่วยอาการก็ดีขึ้น ผลตรวจก็ไม่พบเชื้อไวรัส แต่มีคนไทยอีก 3 คนที่กลับมาจากอู่ฮั่นด้วยกันที่เป็นโรคซึมเศร้าก่อนแล้ว จิตแพทย์กำลังดูแล โดยแพทย์จะติดตามคนไทยทั้ง 138 คนที่กลับมาจากอู่ฮั่นไปอีก 6 เดือน ส่วนผู้ป่วยเข้าเกณฑ์ติดเชื้อตอนนี้มีรวม 615 คน กลับบ้านแล้ว 225 คน ที่เหลือยังนอนโรงพยาบาล

....