หมอจุฬาฯ เผยยังไม่สามารถสรุปได้ว่าหญิงเกาหลีใต้ติดเชื้อจากที่ใด
กรณีหญิงชาวเกาหลีใต้วัย 42 ปี เดินทางมาเที่ยวที่ไทยและเมื่อเดินทางกลับเกาหลีใต้มีอาการป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ระบุว่า การออกจากประเทศไทย ต้องมีการคัดกรองไม่ให้แพร่ออกนอกประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุขไทย ได้รับทราบข้อมูลและได้ประสานไปที่จุดประสานงานกฎอนามัยระหว่างประเทศ (IHR focal point) ของประเทศเกาหลีใต้ ซึ่ง IHR focal point เป็นกลไกการประสานงานระหว่างประเทศของประเทศสมาชิกองค์การอนามัยโลก ภายใต้กฎอนามัยระหว่างประเทศ พ.ศ.2548 ขณะนี้ อยู่ระหว่างการประสานข้อมูลกลับจากกระทรวงสาธารณสุขของประเทศเกาหลีใต้ เพื่อทำการสอบสวนข้อมูลทางระบาดวิทยาเพิ่มเติม
ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาของประเทศไทย ให้ความเห็นตรงกันว่าในกรณีดังกล่าว ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นการติดโรคจากประเทศไทย เนื่องจากทั้งประเทศไทยและประเทศเกาหลีใต้ มีรายงานการพบผู้ป่วยภายในประเทศ หรือ local transmission เช่นเดียวกัน จึงมีความเป็นไปได้ว่าผู้ป่วยอาจได้รับเชื้อจากเกาหลีใต้หรือจากประเทศไทยก็ได้ ตามรายงานข่าวว่าป่วยภายหลังจากเดินทางกลับจากประเทศไทย 6 วัน ซึ่งข้อมูลปัจจุบันพบว่า ระยะฟักตัวของโรค สั้นสุดคือ 2 วัน จึงอาจเป็นไปได้ว่าอาจติดเชื้อในประเทศเกาหลีใต้ และระยะฟักตัวของโลกนานที่สุดคือ 7 วัน ก็มีความเป็นไปได้ว่าอาจได้รับเชื้อในประเทศไทย ดังนั้นจึงยังไม่สามารถด่วนสรุปได้ในขณะนี้ มีความจำเป็นที่จะต้องประสานข้อมูลและสอบสวนโรคทางระบาดวิทยาเพิ่มเติม ขอให้มั่นใจว่า ประเทศไทยได้ดำเนินมาตรการอย่างเข้มข้นทั้งการตรวจคัดกรองผู้โดยสารขาเข้าและเริ่มมีการตรวจคัดกรองผู้โดยสารขาออกในบางเที่ยวบิน
เกาหลีใต้ ไม่ให้คนต่างชาติที่เดินทางมาจากหูเป่ยภายใน 14วัน เข้าประเทศ
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลี (เคซีดีซี) ออกแถลงการณ์เรื่องการพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่คนที่ 16 เป็นหญิงชาวเกาหลีใต้อายุ 42 ปี เดินทางเข้าประเทศจากไทยเมื่อวันที่ 19 ม.ค. และเริ่มมีอาการป่วยเมื่อวันที่ 25 ม.ค. หลังจากนั้นพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านพัก แต่อาการไม่ดีขึ้น ตัดสินใจไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองกวางจู ห่างจากเกาหลีใต้ ลงมาทางตอนใต้ประมาณ 330 กิโลเมตร ผลตรวจเลือดปรากฏว่า ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ปัจจุบันเกาหลีใต้มีผู้ป่วยสะสมจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อย่างน้อย 16 คน และนับตั้งแต่วันอังคารที่ 4 ก.พ.นี้ เป็นต้นไป เกาหลีใต้ไม่ให้คนต่างชาติที่เดินทางมาจากมณฑลหูเป่ยภายในระยะเวลา 14 วัน เข้าประเทศทางจุดผ่านแดนทุกแห่งของเกาหลีใต้ ขณะที่ ชาวเกาหลีใต้ ที่มีประวัติเข้าสู่พื้นที่ดังกล่าวในช่วงเวลาเดียวกัน สามารถเดินทางเข้าประเทศได้ตามปกติ แต่ต้องกักบริเวณด้วยตัวเองเป็นเวลา 14 วัน นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีมีมติให้ระงับการยกเว้นตรวจลงตราที่หมู่เกาะเชจูด้วย และมาตรการทั้งหมดมีผลบังคับใช้จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
พบผู้ติดเชื้อในมาเลเซียจากคนสู่คนรายแรก
กระทรวงสาธารณสุขของมาเลเซีย ระบุว่า ปัจจุบันมาเลเซียมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อย่างน้อย 10 คน หนึ่งในนั้นเป็นชายชาวมาเลเซียอายุ 41 ปี ไม่เคยเดินทางไปเมืองอู่ฮั่น เมืองเอกของมณฑลหูเป่ย ในภาคกลางของจีน ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดและแพร่ระบาดของโรค แต่เดินทางไปประชุมที่สิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 16 ม.ค.ถึง 23 ม.ค.ซึ่งมีตัวแทนจากจีนเข้าร่วมด้วยหลายคน และชายชาวมาเลเซีย เดินทางกลับประเทศทันทีหลังเสร็จภารกิจ
พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาคนแรกในเบลเยียม
ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขของเบลเยียม ระบุว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 คนแรกในเบลเยียม เป็นหนึ่งในประชาชน 9 คนที่เดินทางกลับมาจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน เมื่อวันอาทิตย์ ทั้ง 9 คนถูกส่งตัวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเนเดอร์ โอเวอร์ ฮีมบีคของกองทัพบกเบลเยียมในกรุงบรัสเซลส์ แพทย์วินิจฉัยว่าหนึ่งใน 9 คนติดเชื้อไวรัส จากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่าผู้ติดเชื้อไวรัสคนนี้ มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีอาการป่วย แต่พบการติดเชื้อจึงได้ย้ายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเซนต์ปีเตอร์ในกรุงบรัสเซลส์ หนึ่งในโรงพยาบาล 2 แห่งของเบลเยียมที่เชี่ยวชาญด้านการรักษาไวรัสและมีเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัย เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาทางการแพทย์อย่างดีที่สุด
ครม.เห็นชอบขยายเวลายื่นภาษีบุคคลธรรมดาอีก 3 เดือน
นางสมหมาย ศิริอุดมเศรษฐ ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การจัดเก็บภาษี (กลุ่มธุรกิจพลังงาน) ในฐานะโฆษกกรมสรรพากร กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม.เห็นชอบมาตรการขยายเวลายื่นแบบชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หรือ ภ.ง.ด. 90/91 ออกไปอีก 3 เดือน จากเดิมสิ้นสุดเดือนมีนาคม เป็นเดือนมิถุนายน 2563 เชื่อว่าจะช่วยให้ประชาชนมีเงินใช้จ่ายหมุนเวียนมากขึ้น อีกทั้งมาตรการภาษีต่างๆ ที่ออกมาช่วงนี้จะสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการลงทุนภายในประเทศ และบรรเทาผลกระทบจากการท่องเที่ยวซบเซาปี 2563 ได้ กรมสรรพากรยังมีแผนที่จะออกมาตรการภาษีด้านอื่น ๆ เพิ่มเติมอีก เช่น มาตรการสนับสนุนให้บริษัทเอกชนรับผู้พ้นโทษเข้าทำงาน ซึ่งจะช่วยเสริมทั้งด้านสังคมและตลาดแรงงานในประเทศที่ยังขาดแคลน โดยไม่ต้องพึ่งแรงงานประเทศเพื่อนบ้านเป็นการสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจให้กับประเทศได้อีกทางหนึ่ง
มาตรการภาษีอื่น ๆ ที่กรมสรรพากร จะนำมาใช้เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ได้แก่ มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการท่องเที่ยว และจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศ ซึ่งเป็นสิทธิประโยชน์ที่ให้กับบริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล โดยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถนำรายจ่ายที่เป็นค่าห้องสัมมนา ค่าห้องพัก ค่าขนส่ง หรือรายจ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการอบรมสัมมนา รวมทั้งรายจ่ายที่จ่ายเป็นค่าบริการให้แก่มัคคุเทศก์นำเที่ยว เพื่อการอบรมสัมมนาให้แก่ลูกจ้าง ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 มาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณภาษีได้ 2 เท่า
ในส่วนผู้เสียภาษีที่ต้องการขอคืนภาษี ยังสามารถยื่นแบบชำระภาษีเข้ามาได้ตลอด โดยปีนี้ผู้ที่ยื่นภาษีเร็วก็จะได้ภาษีคืนเร็ว หากเอกสารครบถ้วน ซึ่งเวลานี้มีผู้ขอคืนภาษีเข้ามาแล้วกว่า 700,000 ราย และได้เงินคืนไปแล้วกว่า 500,000 ราย หรือ ร้อยละ 73 ของผู้ที่ขอคืนทั้งหมด ซึ่งกรมสรรพากร ใช้ระยะเวลาเฉลี่ยในการคืนภาษีประชาชนอยู่ที่ 3-7 วันเท่านั้น โดยเป็นการคืนภาษีผ่านระบบพร้อมเพย์มากกว่าร้อยละ 90 เนื่องจากมีความสะดวกและรวดเร็วกว่า
หุ้นไทยดีดตัวปิดบวก 23.32 จุด ตามตลาดหุ้นในภูมิภาค
การลงทุนในตลาดหุ้นไทย ปิดตลาดที่ 1,519.38 จุด บวก 23.32 จุด มูลค่าการซื้อขาย 58,698.59 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยปิดบวกสอดรับตามหุ้นในภูมิภาคที่ปิดเขียว หลังจากที่ตัวเลขภาคการผลิตหรือพีเอ็มไอของสหรัฐฯปรับตัวดีขึ้นกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ขณะนี้ ในประเทศมีแรงหนุนจากการที่ภาครัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น ขยายการยื่นแบบชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของปี 2562 จากเดิมต้องยื่นภาษีภายในเดือนมี.ค. 2563 ออกไปอีก 3 เดือน หรือสิ้นสุด 30 มิ.ย. เพื่อบรรเทาให้ผู้มีรายได้ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว นอกจากนี้ได้ขยายกรอบวงเงินงบประมาณปี 2562 จากร้อยละ 50 เป็นร้อยละ 75 เนื่องจากงบประมาณ 2563 อาจจะล่าช้า เป็นต้น ส่วนราคาน้ำมันดิบเริ่มฟื้นตัวปรับเพิ่มขึ้น ร้อยละ 2 หนุนหุ้นในกลุ่มพลังงาน รวมถึงส่งออกอาหารเริ่มดีขึ้น เนื่องจาก ตลาดคาดหวังจีนออกมาตรการพยุงเศรษฐกิจทำให้ตลาดหุ้นปรับขึ้น
สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามเป็นเรื่องการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) วันที่ 5 ก.พ.นี้ คาดการณ์ว่ากนง.ลดดอกเบี้ยลงร้อยละ 0.25 มีสัดส่วนร้อยละ 45 และอีกสัดส่วนร้อยละ 55 มองว่า คงดอกเบี้ย รวมถึงสถานการณ์ไวรัสโคโรนา
การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่นปิดบวก 112.65 จุด ปิดที่ 23,084.59 จุดเนื่องจากการฟื้นตัวของตลาดหุ้นจีนกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นเพื่อเก็งกำไร หลังจากตลาดร่วงลงอย่างหนักจากความวิตกเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในจีน
ดัชนีฮั่งเส่ง ฮ่องกง เพิ่มขึ้น 319.00 จุด ปิดที่ 26,675.98 จุด เนื่องจาก นักลงทุนยังคงช้อนซื้อหุ้นที่ร่วงลง
สทนช.ร่วมมือเกษตรกร-รัฐ-เอกชน ปันน้ำคลองวังโตนด จันทบุรี ช่วยอ่างฯประแสร์ ระยอง
การหาทางแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำภาคตะวันออก นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกและร่วมงาน MOU การดำเนินการแบ่งปันน้ำจากอ่างเก็บน้ำคลองประแกด จังหวัดจันทบุรี ให้แก่อ่างเก็บน้ำประแสร์ จังหวัดระยอง ที่ศาลากลางจังหวัดจันทบุรี (หลังใหม่) อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี พร้อมทั้งระบุว่า มีการคาดการณ์ว่าระหว่างเดือนมกราคม-มิถุนายน 2563 อาจมีปริมาณฝนตกน้อยกว่าค่าเฉลี่ยและฝนจะมาล่าช้ากว่าปกติ ทำให้ทุกภาคส่วนต้องเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยแล้ง โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลตะวันออก (จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชลบุรี และจังหวัดระยอง) เป็นพื้นที่ที่ต้องติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นพื้นที่สำคัญของประเทศที่มีความต้องการใช้น้ำอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านเกษตรกรรม พาณิชยกรรม อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว ทำให้หลายฝ่ายมีความห่วงใยว่าปริมาณน้ำต้นทุนในแต่ละพื้นที่อาจมีไม่เพียงพอที่จะสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตลอดฤดูแล้ง จนได้ข้อสรุปและมีการลงนามMOU ระหว่างกรมชลประทานและคณะกรรมการลุ่มน้ำสาขาคลองวังโตนด ในวันนี้ เพื่อแบ่งปันน้ำจากอ่างเก็บน้ำคลองประแกด จังหวัดจันทบุรี ให้แก่อ่างเก็บน้ำประแสร์ จังหวัดระยอง เป็นการเฉพาะกิจ ในปริมาณ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยใช้ระบบสูบน้ำสถานีสูบน้ำคลองวังโตนด-อ่างเก็บน้ำประแสร์ ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 และต้องไม่ทำให้เกิดผลกระทบการใช้น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำวังโตนด หากเกิดผลกระทบจะให้หยุดสูบน้ำทันที
ตำรวจสืบสวนนครบาล 3 บุกรวบ ‘ทนายษิทรา’ คดีร่วมกันนำสืบและเบิกความเท็จ
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน บก.น.3 ร่วมกับชุดสืบสวน สน.มีนบุรี นำหมายจับศาลอาญามีนบุรี เข้าจับกุมนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการทีมงานมูลนิธิทนายประชาชนฯ ในข้อหา“ร่วมกันนำสืบหรือแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ และเบิกความเท็จ” โดยจับกุมได้ที่สำนักงานกฎหมายของนายษิทรา อ. กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ก่อนที่จะนำตัวไปสอบปากคำที่ สน.มีนบุรี พร้อมแจ้งข้อหาร่วมกันนำสืบแสดงพยานหลักฐานอันเป็นเท็จและเบิกความเท็จต่อศาลมีนบุรี ในคดีเอมี่ อาเมเรีย จาค๊อป โดยใช้ พ.ร.บ.ยาเสพติดมาตรา 100/2 อันเป็นเท็จ มีคนเข้ามากดถูกใจและกดแชร์จำนวนมาก