สถานการณ์ผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข นำโดย น.พ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ภาพรวมในวันนี้ จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสฯยังคงเท่าเดิม 19 ราย รักษาตัวห้องแยกโรคในโรงพยาบาล 12 ราย หายดีกลับบ้านแล้ว 7 ราย ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 3-31มกราคม มีทั้งหมด 344 ราย คัดกรองจากสนามบิน 39 ราย มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 305 ราย อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว 70 ราย ส่วนใหญ่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล และยังคงรับไว้ในห้องแยกโรคโรงพยาบาล 274 ราย รวมวันที่ 31 ม.ค.พบผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรครายใหม่จำนวน 64 ราย
ส่วนการเตรียมรับคนไทยที่เมืองอู่ฮั่นกลับประเทศไทย รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมหารือกับกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมการรับคนไทยกลับประเทศ เพื่อการปฏิบัติการตามมาตรฐานแบบสากล เช่นการตรวจคัดกรองทุกคนก่อนขึ้นเครื่อง การเตรียมจุดคัดกรองเมื่อมาถึงสนามบิน จนถึงขณะนี้ ยังไม่พบคนไทยที่อู่ฮั่นป่วย และขอย้ำอีกครั้งว่าไม่ทราบกำหนดวันที่ชัดเจน ว่าจะเดินทางไปรับคนไทยกลับเมื่อใด
สำหรับกรณีการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นชายไทย ซึ่งมีอาชีพขับรถแท็กซี่ที่ไม่มีประวัติเดินทางไปเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีนตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค.แต่ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินเพิ่งเปิดเผยวันที่ 31 ม.ค.นั้น น.พ.ธนรักษ์ ย้ำว่า ไวรัสโคโรนาเป็นโรคใหม่ การตรวจคนไทยที่เข้าข่ายติดเชื้อ ครั้งแรกผลเป็นเหมือนบวก แต่ผ่านไปสักระยะผลเป็นลบ ดังนั้นคนไทยที่ป่วยรายแรกไม่ได้ดูจากผลแล็ปอย่างเดียว แต่ต้องตรวจซ้ำจนมั่นใจว่า ใช่แน่นอน ซึ่งผู้ป่วยรายนี้ ทุกหน่วยงานได้มีการตรวจอย่างละเอียดจนสรุปได้ว่าเป็นเชื้อไวรัสโคโรนา
น.พ.ธนรักษ์ ให้ความรู้เพิ่มเติมว่า คนไทยที่มีโอกาสเสี่ยงสูง ควรป้องกันตัวเอง เช่น ผู้ขับขี่รถแท็กซี่ ควรทำความสะอาดรถบ่อยๆ ล้างมือ และสวมใส่หน้ากากอนามัย เป็นต้น สำหรับคนไทยอื่นๆที่สำรวจตัวเองว่ามีโอกาสสัมผัสผู้ป่วยไวรัสฯน้อยมาก ซึ่งบางพื้นที่ไม่มีคนจีนเข้าท่องเที่ยวเลย ก็ใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ หากคนไทยที่สำรวจตัวเองแล้วมีโอกาสติดเชื้อ เช่น มีน้ำมูก ไอ จาม ให้สวมหน้ากากอนามัยและพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยทันที