การยกระดับรับมือไวรัสโคโรนา บ่ายวันนี้มีการประชุมคณะกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่แห่งชาติ ที่รัฐบาลเพิ่งตั้งขึ้นมาเพื่อจัดการกับสถานการณ์ไวรัสโคโรนาในประเทศไทย
ช่วงเริ่มประชุมนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการฯ ระบุว่า ภายในสัปดาห์หน้าน่าจะส่งเครื่องบินไปรับ 64 คนไทยในเมืองอู่ฮั่นกลับมาได้ ตอนนี้เตรียมคณะแพทย์ที่จะไปตรวจคัดกรองคนไทยในอู่ฮั่นไว้หมดแล้ว และจะไปทันทีเมื่อจีนอนุญาต โดยถือเป็นสิ่งที่ต้องทำให้เร็วที่สุด พร้อมระบุว่า ขณะนี้เป็นแค่จุดเริ่มต้นการระบาดของเชื้อ จึงต้องวางมาตรการป้องกันให้ดีที่สุด
เบื้องต้นจะยกระดับการตรวจคนจีนที่เข้ามาไทยเป็นพิเศษ โดยคนจีนทุกคนต้องมีใบรับรองแพทย์ว่าไม่มีเชื้อไวรัสโคโรนาจึงจะอนุญาตให้เข้าไทยได้ ประกอบกับให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาส่งสรุปตัวเลขคนจีนเข้า-ออกไทยรายวันมาให้กระทรวงสาธารณสุขทุกวัน รวมถึงที่ประชุมวันนี้จะหารือถึงการยกเลิกการขอรับการตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง(Visa on Arrival) แก่คนจีนที่มาไทย หากมีการยกเลิกวีซ่าก็จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปหาทางเยียวยา ยืนยันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือ ความปลอดภัยและสุขภาพของคนไทย
นายอนุทิน ยังสั่งให้กระทรวงสาธารณสุขไปดูแลจำนวนหน้ากากอนามัยให้มีเพียงพอและต้องไม่ขึ้นราคา รวมถึงสิ่งของอื่นที่เกี่ยวกับการป้องกันเชื้อด้วย ย้ำว่ามีโรงพยาบาลและเครื่องมือเพียงพอรับผู้ป่วย ส่วนที่องค์การอนามัยโลก(WHO) ยกระดับภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ ไทยก็ต้องยกระดับมาตรการขั้นสูงสุด
สำหรับการประชุมคณะกรรมการฯวันนี้มีหลายหน่วยงานเข้าร่วม เช่น นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่เป็นรองประธานคณะกรรมการฯ, ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข, นักวิชาการที่เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดที่เคยรักษาโรคซาร์สและเมอร์สมาแล้วเข้าร่วมด้วย โดยคณะกรรมการฯชุดนี้จะบูรณาการการทำงานของทุกหน่วยงานให้สอดคล้องกัน โดยนายอนุทินย้ำว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งให้คณะกรรมการฯเร่งหาทางรับมือเชื้อไวรัส และยืนยันว่าภาครัฐไม่เคยปกปิดข้อมูลใด จึงขอให้ประชาชนยึดข่าวที่ออกมาจากหน่วยงานในภาครัฐเป็นหลักสำหรับการประชุมคาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 2 ชม. และหลังประชุม นายอนุทินจะแถลงข่าวอีกครั้ง