รอยเตอร์ รายงานอ้างนายซุง วอน ซอห์น อาจารย์ประจำภาควิชาเศรษฐศาสตร์ธุรกิจ มหาวิทยาลัยโลโยลา แมรีเมาท์ของสหรัฐฯ ระบุว่า เมื่อช่วงไตรมาส 4 เมื่อปีที่แล้ว เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัวในระดับปานกลาง ร้อยละ 2.1 ส่วนทั้งปี เศรษฐกิจขยายตัวร้อยละ 2.5 ต่ำกว่าที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวร้อยละ 3 สาเหตุที่เศรษฐกิจสหรัฐฯขยายตัวลดลง เป็นผลจากสงครามการค้ากับประเทศจีน และการลงทุนของภาคเอกชนเมื่อช่วงไตรมาสที่ 4 เมื่อปีที่แล้ว ชะลอตัวลงต่อเนื่องจากไตรมาส 3 และต่ำกว่าร้อยละ 2.9 เมื่อปี 2560
นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)มองว่าความเสี่ยงที่เป็นผลจากสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ยังคงมีอยู่ นักลงทุนเอกชนส่วนใหญ่จึงรอดูความชัดเจนก่อน แม้ว่าจะมีการลงนามข้อตกลงทางการค้าระยะที่1 ไปแล้ว ซึ่งจะมีผลเรื่องที่จีนจะสั่งซื้อสินค้าจากสหรัฐฯเพิ่มมากขึ้น แต่เอกชนบางราย ปรับตัวด้วยการลดขนาดของธุรกิจ หรือ บริษัทโบอิ้ง ผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ของสหรัฐฯ หยุดผลิตเครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ หลังจากเกิดเหตุเครื่องบินรุ่นนี้ตกมา 2 ครั้ง และเมื่อเดือน มี.ค. ปีที่แล้ว สั่งระงับการบินด้วยเครื่องบินรุ่นนี้ชั่วคราว อย่างไรก็ตาม การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดของสหรัฐฯ ช่วยกระตุ้นให้มีการซื้อรถยนต์ อสังหาริมทรัพย์และสินค้าอื่นๆที่มีมูลค่าการซื้อขายจำนวนมาก แต่ผลการประชุมล่าสุด เฟดคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมที่ร้อยละ 1.50-1.75 และในวันนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯจะแถลงตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจสหรัฐฯในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2562
แฟ้มภาพ