การเชื่อมโยงข้อมูลคดีการทุจริตเป็นหนึ่งในกระบวนการทำงานหลายด้านเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานตรวจสอบคดี ในวันนี้ นายสาวิตร บุญประสิทธิ์ รองอัยการสูงสุด และนายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) การเชื่อมโยงข้อมูลคดีทุจริตโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะทำให้การดำเนินคดีเป็นไปด้วยความรวดเร็ว โปร่งใสตรวจสอบได้ โดยการนำระบบเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่มาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายทั้งภาครัฐและประชาชน
โดยในบันทึกข้อตกลงครั้งนี้ แต่ละหน่วยงานจะสามารถนำข้อมูลคดีไปดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ได้ และจะร่วมกันจัดทำข้อมูล และแนวทางในการเชื่อมโยงข้อมูลอื่นๆ นำมาศึกษาและเพิ่มประสิทธิภาพ ถือเป็นการเริ่มต้นที่สอดคล้องกับนโยบายดิจิตอลในการดำเนินคดีทุจริตอีกด้วย
เลขาฯ ป.ป.ช. กล่าวด้วยว่า ป.ป.ช. มีการเชื่อมโยงข้อมูลการทุจริตกับหลายหน่วยงานเช่น สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ กรมสอบสวนคดีพิเศษ สถาบันทางการเงิน 18 แห่ง และในวันนี้คือสำนักงานอัยการสูงสุด
ด้านนายสาวิตร ระบุด้วยว่า อัยการสูงสุดมีการเปิดใช้งานสารบบคดีอิเล็กทรอนิกส์เต็มรูปแบบเมื่อต้นปีที่แล้ว ซึ่งสามารถเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมที่เกี่ยวข้อง เช่นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และขณะนี้กำลังพัฒนาระบบเชื่อมโยงกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ และจะเพิ่มช่องทางให้ประชาชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมในชั้นพนักงานอัยการ ผ่าน mobile Application อำนวยความสะดวกให้ประชาชนและอัยการที่รับผิดชอบในคดีได้ติดตามความคืบหน้าข้อมูลในคดี โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เสียเวลาในการเดินทาง
...