หลังจากที่ทางการอิหร่านยอมรับว่าไม่ได้ตั้งใจยิงขีปนาวุธใส่เครื่องบินโดยสารของสายการบินแห่งชาติยูเครน จนทำให้เครื่องบินตกและมีผู้เสียชีวิต 176 ศพ เนื่องจากก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมงได้ยิงขีปนาวุธโจมตีฐานทัพอากาศสหรัฐฯ ในอิรัก 2 แห่ง บรรดาผู้เชี่ยวชาญจากอเมริกาหลายคนต่างออกมาแสดงความเห็นว่า อิหร่านควรปิดน่านฟ้าตั้งแต่ยิงขีปนาวุธถล่มฐานทัพอากาศสหรัฐฯ ในประเทศอิรักเมื่อวันพุธที่ผ่านมา พร้อมกับแสดงความสงสัยว่าเหตุใดทางการอิหร่านจึงไม่ออกคำสั่งให้เครื่องบินพาณิชย์ยุติการบินหรือเข้าใกล้สนามบินในกรุงเตหะราน พลตรีเจมส์ มาร์กส์ อดีตนายทหารของสหรัฐฯ กล่าวว่า ในขณะที่ทุกคนกำลังวิตกเรื่องความไม่ปลอดภัย หลังอิหร่านยิงขีปนาวุธถล่มฐานทัพอากาศสหรัฐฯ ในอิรัก แต่ทางการอิรักกลับปล่อยให้สายการบินพาณิชย์ทำการนำเครื่องบินโดยสารขึ้นและลงจากสนามบินในกรุงเตหะรานตามปกติ เขาจึงเห็นว่าเป็นเรื่องที่ขาดความรับผิดชอบอย่างเหลือเชื่อ
นายเดวิด ซูซี อดีตผู้ตรวจสอบประจำสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุว่าผู้โดยสารสายการบินมิอาจทราบได้ว่าเครื่องบินที่เขานั่งจะบินเข้าไปในเขตสงคราม
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานความเห็นของนายเฟรด เพลทเจน ผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็นประจำอิหร่านว่า เขาเคยนั่งเครื่องบินออกจากสนามบินโคเมนีในกรุงเตหะรานราว 16-17 ครั้ง และมั่นใจว่าทุกครั้งเครื่องบินก็จะบินด้วยเส้นทางเดิม เช่นเดียวกับเครื่องบินของสายการบินแห่งชาติยูเครนลำที่ประสบเหตุตกเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าใช้เส้นทางออกจากสนามบินโคมีนีตามปกติ อีกทั้งข้อมูลการบินของเที่ยวบินหลายเที่ยวก่อนหน้านั้นก็พบว่ามีการใช้เส้นทางเดียวกัน แต่แถลงการณ์ของกองทัพกลับระบุว่าสายการบินแห่งชาติยูเครนบินเข้าใกล้เขตทหาร จนทำให้เกิดความเข้าใจผิดและมีการยิงขีปนาวุธโจมตี
...