พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ให้ปากคำต่อ ป.ป.ช. ในฐานะพยาน ย้ำมีความผิดปกติจัดซื้อเครื่องไบโอเมทริกซ์

10 มกราคม 2563, 15:05น.


           หลังนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน เพื่อเยาวชนและสังคม ยื่นเรื่องต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช  ตรวจสอบโครงการจัดซื้อเครื่องตรวจอัตลักษณ์บุคคล หรือ ไบโอเมทริกซ์ และรถสายตรวจอัจฉริยะ ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง วงเงิน 2,100 ล้านบาท ที่ส่อไปในทางทุจริต



          ในวันนี้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีตผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้เดินทางเข้าให้ปากคำในฐานะพยานปากแรก ต่อ ป.ป.ช. พร้อมเปิดเผยว่า ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่พูด เพราะจากนี้จะเป็นหน้าที่ของป.ป.ช.ในการไต่สวนข้อเท็จจริง และมั่นใจว่าป.ป.ช. จะสามารถรวบรวมพยานหลักฐานได้ชัดเจน รวมถึงการให้ข้อมูลเพิ่มเติมของคณะกรรมการตรวจรับ ซึ่งเป็นถึงรองผู้บัญชาการที่มาในฐานะพยานในวันนี้ด้วย



          ส่วนการยกเลิกสัญญาตัวเองเป็นผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเพียงคนเดียวที่กล้ายกเลิกสัญญา เพราะมีความผิดปกติอย่างมาก โดยเฉพาะงบประมาณที่จากเดิมตั้งไว้ 1,000 ล้านบาทกลายเป็น 2,000 ล้านบาท และตอนแรกสถานีตำรวจภูธรไม่อยู่ในแผนที่จะได้รับเครื่องไบโอเมทริกซ์ แต่เพราะงบประมาณที่มากถึง 2,000 ล้านบาท ทำให้ได้รับการแจกจ่ายเครื่องเหล่านี้แต่ปัจจุบันไม่ได้ถูกใช้งาน



            สำหรับกรณีที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเตรียมเป็นคนกลางเคลียร์ใจกับคนในคลิปเสียงนั้นขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากพล.อ.ประวิตร และเชื่อว่าพล.อ.ประวิตรจะไม่มาสั่งการในเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่หากได้รับการติดต่อก็พร้อมคุยทุกเรื่อง แต่ยืนยันว่าจะไม่ทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย พร้อมมั่นใจว่าข้อมูลที่นำมาให้ถ้อยคำต่อป.ป.ช.วันนี้ จะสามารถเอาผิดผู้ถูกร้องได้ อย่างแน่นอน ส่วนผลการไต่สวนจะออกมาเป็นอย่างไรคงต้องแล้วแต่คณะกรรมการป.ป.ช.

ข่าวทั้งหมด

X