ตม.ยืนยันระบบไบโอเมทริกซ์ตรวจจับคนร้ายได้จริง ยกระดับระบบการคัดกรองของไทยให้ได้มาตรฐาน

09 มกราคม 2563, 13:48น.



         หลังจากเมื่อวานนี้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ อดีตผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม. ระบุว่า ระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล หรือ ไบโอเมทริกซ์ ที่ตม.ได้ดำเนินการติดตั้งเพื่อตรวจสอบประวัติของบุคคลที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ไม่สามารถตรวจจับคนร้ายได้จริง ที่ผ่านมาเป็นฝีมือของตำรวจล้วนๆ วันนี้ตำรวจตม.แถลงจับคนร้ายด้วยระบบไบโอเมทริกซ์ รวม 7ราย แบ่งเป็น ชาวตุรกี 4 ราย ชาวอิหร่าน โดมินิกัน และ มาเลเซีย รวม 3 ราย ทั้งหมดได้ใช้หนังสือทางปลอม เข้ามาในประเทศไทย



         พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ยืนยันว่า ระบบนี้มีประสิทธิภาพสูง จับคนร้ายได้จริง ใช้ในสนามบินนานาชาติขนาดใหญ่ เช่น สหรัฐอเมริกา เป็นต้น สร้างความเชื่อมั่นใจได้ว่าประเทศไทยมีระบบคัดกรองที่มีมาตรฐานและปลอดภัย  พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้อนุมัติโครงการยกระดับตม.ให้ทัดเทียมกับนานาชาติ มองว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ไม่ควรนำเรื่องระบบไบโอเมทริกซ์ไปเชื่อมโยงกับความขัดแย้งส่วนตัว และไม่ควรใช้เรื่องนี้เป็นเครื่องมือให้ตัวเองเกิดความชอบธรรม



          ด้านพล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พร้อมชี้แจงกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เพราะทำงานอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ มีเอกสารพร้อม





          นายอาศิส อัญญะโพธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาดิจิทัลโซลูชันส์ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล เป็น1ในผู้ร่วมตรวจสอบระบบไบโอเมทริกซ์  ชี้แจงว่า ระบบสามารถตรวจสอบชิพที่ฝังอยู่ในหนังสือเดินทางได้ บันทึกลายพิมพ์นิ้วมือได้10 นิ้ว รวมถึงตรวจสอบใบหน้าผู้ถือหนังสือเดินทางว่าตรงกับชิพข้อมูลรูปภาพเก่าหรือไม่ และตรวจสอบคนที่ทำศัลยกรรมได้ด้วย





          พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รองผู้บังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 2 ในฐานะผู้ปฎิบัติงานที่ควบคุมดูแลท่าอากาศยานนานาชาติในประเทศไทย กล่าวว่า ระบบไบโอเมทริกซ์ ช่วยให้เจ้าหน้าที่คัดกรองบุคคลเข้าออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ




 

ข่าวทั้งหมด

X