รัฐบาลสหรัฐฯ และรัฐบาลอิหร่านต่างยื่นหนังสือต่อนายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ และคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ โดยอ้างเหตุผลเหมือนกันว่าใช้ปฏิบัติการทางทหาร ตามมาตรา 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติ (Article 51 of the UN Charter) เพื่อปกป้องตนเองจากการโจมตีของอีกฝ่าย ตามที่มีข้อกำหนดว่า ประเทศสมาชิกสหประชาชาติที่อาศัยอำนาจตามมาตรา 51จะต้องรายงานให้คณะมนตรีความมั่นคงฯ ทราบในทันที และต้องไม่ขัดขวางหรือก้าวก่ายกระบวนการตรวจสอบ
นางเคลลีย์ คราฟต์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ ระบุในหนังสือฉบับนี้ว่า ปฏิบัติการทางทหารของกองทัพสหรัฐฯที่ท่าอากาศยานนาชาติแบกแดด เมื่อวันที่ 2 มกราคม เป็นการป้องกันตนเอง ตามมาตรา 51 และรัฐบาลสหรัฐฯ พร้อมเจรจาอย่างจริงจังโดยไม่มีเงื่อนไขกับอิหร่านเพื่อให้บรรลุเป้าหมายคือการสร้างสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศที่เสื่อมถอยลงเพราะอิหร่าน ซึ่งในเวลาเดียวกันสหรัฐฯ ยังมีความพร้อมที่จะดำเนินการตามความจำเป็นเพื่อปกป้องพลเมืองอเมริกันและผลประโยชน์ของอเมริกาในตะวันออกกลาง
ก่อนหน้านี้สหรัฐฯ เคยอ้างถึงการใช้สิทธิตามมาตรา 51 เมื่อครั้งโจมตีซีเรียเพื่อกำจัดกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส เมื่อปี 2557
ด้านนายโมฮัมหมัด จาวาด ซารีฟ รัฐมนตรีการต่างประเทศอิหร่าน ระบุว่า ปฏิบัติการโจมตีฐานทัพอากาศ 2 แห่งของสหรัฐฯในอิรัก เมื่อวันที่ 8 มกราคม เป็นการป้องกันตนเองตามสิทธิอันชอบธรรมของรัฐภาคีสมาชิกพร้อมยืนยันว่าอิหร่านไม่ต้องการทำสงคราม แต่จะป้องกันตนเองจากความก้าวร้าวทุกรูปแบบ
...