การลงพื้นที่สถานีสูบน้ำโรงผลิตน้ำประปา เพื่อตรวจวัดคุณภาพน้ำ หลังจากน้ำประปามีรสกร่อยเพราะน้ำทะเลหนุนสูง นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน ลงพื้นที่โรงสูบน้ำดิบการประปานครหลวงสำแล จ. ปทุมธานี โรงผลิตน้ำประปามหาสวัสดิ์ จ.นนทบุรี โดยพบว่าพื้นที่โรงสูบน้ำดิบการประปานครหลวงสำแล ค่าความเค็มในวันนี้ อยู่ที่ 0.51 กรัมต่อลิตร เกินค่ามาตรฐานมา 0.01 กรัมต่อลิตร ซึ่งหากเกิน 0.6 กรัมต่อลิตร ทำให้น้ำที่นำไปผลิตก็จะมีรสกร่อยกว่าปกติ
นายปริญญา ยมะสมิต ผู้ว่าการการประปานครหลวง ระบุว่า กปน.ได้ตรวจสอบคุณภาพน้ำดิบตลอดเวลาช่วงไหนความเค็มทะลุขึ้นสูง กปน.จะงดการสูบน้ำเข้ามาผลิตน้ำประปาและกลับมาสูบน้ำหลังจากสถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติ และจะเตือนประชาชนผ่านทางแอปพลิเคชั่น MWA และเว็บไซด์ว่าช่วงไหนน้ำประปาจะกร่อย โดยจะเตือนเป็นรายชั่วโมง ซึ่งคุณภาพน้ำจะแตกต่างกันไปในแต่ละวัน ขึ้นอยู่กับสภาพน้ำดิบ แต่ยืนยันว่าขณะนี้คุณภาพน้ำดิบยังไม่เกินค่ามาตรฐานและยืนยันว่าจะไม่มีการหยุดจ่ายน้ำประปาให้ประชาชนอย่างเด็ดขาด อีกทั้งขณะนี้ค่าน้ำประปายังอยู่ในค่ามาตรฐานขององค์การอนามัยโลก ยืนยันว่ามีน้ำดิบมาผลิตน้ำประปาให้ประชาชนในเขตพื้นที่ดูแลของกปน.ทั้งกรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ได้แน่นอน
จากนั้นลงพื้นที่ไปที่ประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดที่กรมชลประทานได้ผลักดันน้ำเค็ม โดยเปิดประตูระบายน้ำในช่วงเวลา 15.00 น. - 20.00 น. เพื่อให้กระแสน้ำดันความเค็มลงสู่ทะเลให้ได้มากที่สุด จากนั้นจะปิดประตูระบายน้ำหลัง20.00 น. ซึ่งเป็นช่วงน้ำทะเลขึ้น อธิบดีกรมชลประทาน ระบุว่า การเปิด-ปิดบานประตูพบว่าค่าความเค็มลดลงซึ่งช่วยบรรเทาสถานการณ์ได้จริง และจากการลงพื้นที่หลายพื้นที่และมีหลายมาตรการมั่นใจว่าสามารถควบคุมความเค็มของน้ำที่จะผลิตน้ำประปาได้ และแม้ว่าสถานการณ์น้ำทะเลหนุนปีนี้รุนแรงกว่าเมื่อปีที่เคยหนุนสูงสุดคือปี 2558 ถึง 20 ซม.
กรมชลประทาน ได้วางแผนทั้งการปล่อยน้ำผลักดันน้ำเค็มและจะดำเนินการจนถึงวันที่ 13 ม.ค. จากนั้นจะทยอยลดการปล่อยน้ำและเก็บน้ำต้นทุนไว้ และจะเพิ่มการปล่อยอีกครั้งในวันที่ 26 -27 ม.ค.ที่คาดว่าน้ำทะเลจะหนุนสูงอีกครั้งของเดือนนี้ ขอความร่วมมือเกษตรกรอย่ากักเก็บน้ำไว้ด้วย