ทางการออสเตรเลีย ระบุว่า สถานการณ์ไฟป่าในเช้าวันนี้ (6 ม.ค.) บรรเทาลงเล็กน้อยเนื่องจากมีฝนตกเบาบางในพื้นที่ที่มีไฟป่าทางตะวันออกเฉียงใต้ ตามแนวชายฝั่งจากซิดนีย์ไปจนถึงเมลเบิร์น ขณะที่นักดับเพลิงยังต้องต่อสู้กับไฟป่าที่ทำลายพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง และมีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 24 คน และมีความเป็นได้ที่สถานการณ์อาจกลับมารุนแรงอีกครั้งในช่วงปลายสัปดาห์นี้
นางแกลดิส เบเรจิกเลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงสุดสัปดาห์อุณหภูมิทั่วไปอยู่ในระดับที่สูงกว่า 40 องศาเซลเซียส ฝนที่ตกในช่วงเช้านี้ ช่วยให้อุณหภูมิทั่วไปลดลงมาอยู่ในระดับต่ำกว่า 20 องศาเซลเซียส และมีความชื้นมากขึ้น ผู้ประสบภัยบางส่วนสามารถกลับไปสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรของตนเองได้ แต่ยังไม่มีไฟฟ้าและระบบสาธารณูปโภคอื่นๆ กับยังมีไฟป่ามากกว่า 130 จุดในนิวเซาท์เวลส์ที่เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครต้องเร่งดับไฟและยังมีผู้สูญหาย 2 คน ออสเตรเลียมีปัญหาภัยแล้งนาน 3 ปีติดต่อกัน และมีไฟป่าเกิดขึ้นเริ่มต้นเร็วกว่าปกติในปีที่แล้ว การดับไฟจึงทำได้ยากมากขึ้น
ด้านนายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ประกาศเรียกทหารกองหนุนมาช่วยงานอาสาสมัครดับเพลิงและจะส่งกำลังทหาร 3,000 นายต่อสู้กับไฟป่า และจะเช่าเครื่องบินดับไฟจากต่างประเทศมาดับไฟป่า แต่ก็ถูกวิจารณ์ว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ล่าช้า เพราะไฟป่าเผาทำลายพื้นที่ไปแล้ว 12 ล้าน 3 แสน 5 หมื่นเอเคอร์ ทั้งในรัฐนิวเซาท์เวลส์ วิกตอเรีย และเซาท์ออสเตรเลียทำให้มีสัตว์ต่างๆ ทั้งนก สัตว์เลื้อยคลานและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ตายเกือบ 500 ล้านตัว เจ้าหน้าที่ของวนอุทยานบนเกาะแคงการู คาดว่าจะมีโคอาลาบนเกาะตายไปถึงครึ่งหนึ่ง จากที่เคยมีอยู่ถึง 50,000 ตัว
....