รัฐบาล หวังว่าโครงการไฮสปีดเทรน ช่วยเชื่อมโยงระบบขนส่ง เศรษฐกิจขยายตัว

24 ตุลาคม 2562, 17:04น.


           พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีลงนามสัญญาร่วมทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ระหว่าง การรถไฟแห่งประเทศไทย และบริษัทรถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบินจำกัด (กลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัทเจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัดและพันธมิตร) พร้อมเป็นประธานพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อสนับสนุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ระหว่าง สำนักคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก การรถไฟแห่งประเทศไทย บริษัทรถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบินจำกัด



           นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จำเป็นต้องพัฒนาประเทศไทยทั้งทางบก รถไฟความเร็วสูง ทางอากาศเพิ่มเติม รวมถึงท่าเรือแหลมฉบังและมาบตาพุด เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพและวางรากฐานไปสู่อนาคต เป็นความร่วมมือระหว่าง 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย จีนและญี่ปุ่น ซึ่งวันนี้มีอิตาลีมาร่วมด้วยในเรื่องของการเดินรถ เพราะเป็นการลงทุนในรูปแบบระหว่างภาครัฐกับเอกชน Public-Private-Partnership : PPP เป็นการลงทุนรูปแบบใหม่และมีกฎหมายรองรับ ขอให้เชื่อมั่นและไว้วางใจว่า เราเดินหน้ามาถึงวันนี้ได้ ถือเป็นการเดินก้าวที่หนึ่งแล้ว เพราะฉะนั้นอยากให้ทุกคนสนับสนุนให้เราเดินก้าวที่สองได้



          ส่วนการก่อสร้างยังเป็นไปตามสัญญา ซึ่งได้หาทางออกไว้หมดแล้ว กรณีความร่วมมือของภาครัฐเพราะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เช่น เรื่องการส่งมอบพื้นที่ที่มีระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานตามแนวเส้นทางโครงการ ซึ่งจำเป็นต้องแก้ปัญหาในฐานะรัฐบาลต้องรับผิดชอบ ได้เตรียมการไว้ทั้งหมดแล้ว โดยมีกระทรวงมหาดไทยเป็นแม่งานประชุมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง



           พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ผลงานในครั้งนี้เป็นผลงานของรัฐบาลที่แล้วและรัฐบาลนี้ รัฐบาลที่แล้วเริ่มต้นมาแต่ยังไม่จบ ยังเซ็นสัญญาไม่ได้ จนถึงรัฐบาลนี้ก็สืบสานงานนี้ต่อเนื่องจนวันนี้สามารถลงนามในสัญญาโครงการได้ ความมุ่งหมายของเราคือการมองอนาคตไปข้างหน้า จำเป็นต้องมีรายได้เพิ่ม อาจจะไม่เร็วนักเพราะต้องใช้ระยะเวลาในการก่อสร้าง แต่สิ่งสำคัญเมื่อสำเร็จแล้วจะมีผลต่อเศรษฐกิจ การจ้างงาน การขยายเมืองใหม่ การเพิ่มพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ แต่ต้องลดผลกระทบที่มีต่อประชาชนในพื้นที่ด้วย เพราะทุกสถานีที่จอดมีโอกาสที่จะเติบโตทั้งสิ้น ด้วยการทำระบบคมนาคมเชื่อมระบบเข้ามา เช่น ถนน ราง เพื่อเปิดเส้นทางใหม่เข้ามาในพื้นที่ภาคตะวันออก รวมทั้งภาคกลางด้วย



           โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสนามบิน มีแนวเส้นทางเชื่อมท่าอากาศยานสำคัญของประเทศ โดยเริ่มต้นที่ท่าอากาศยานดอนเมือง วิ่งตรงเข้าสู่สถานีกลางบางซื่อ ผ่านสถานีมักกะสัน เลี้ยวเข้าสู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มุ่งหน้าต่อไปตามแนวเส้นทางรถไฟสายตะวันออก ผ่านแม่น้ำบางปะกงเข้าสู่สถานีฉะเชิงเทรา สถานีชลบุรี สถานีพัทยา และเข้าสู่ท่าอากาศยานอู่ตะเภา เป็นสถานีสุดท้าย รวมระยะทาง 220 กิโลเมตร ขบวนรถสามารถทำความเร็วได้สูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่า จะเปิดให้บริการได้ในปี 2566 ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จจะทำให้เกิดการพัฒนาเมืองโดยรอบ เกิดการกระจายรายได้ คาดว่าจะมีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจประมาณ 650,000 ล้านบาท เป็นการพัฒนาประเทศยกระดับภาคอุตสาหกรรมการขนส่งมวลชนตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0



CR:รัฐบาลไทย



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X