หลังจากที่มีมิจฉาชีพโฆษณาหลอกขายอุปกรณ์ประหยัดไฟฟ้า ผ่านช่องทาง Facebook Fanpage : Expert Electric โดยแอบอ้างหน่วยงานรัฐหรือผู้มีชื่อเสียงต่างๆรวมถึงนำภาพข่าวของ 3 หน่วยงานการไฟฟ้า มาตัดต่อโฆษณา หลอกลวงประชาชน วันนี้ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(PEA) พร้อมด้วยผู้เสียหายอีก 4 คน ที่เป็นเจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้าที่ถูกนำภาพไปตัดต่อ ได้นำหลักฐานเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นายจาตุรงค์ สุริยาศศิน ผู้ช่วยผู้ว่าการ กฟน. เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่า Facebook ดังกล่าวเป็น Facebook ปลอม และมีประชาชนที่ถูกหลอกลวงเป็นจำนวนมากได้ร้องเรียนมาว่าเมื่อซื้อมาใช้แล้วไม่ได้ประหยัดไฟจริง จึงขอเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพและหากถูกหลอกลวงให้นำหลักฐานมาแจ้งความที่ บก.ปอท. เพื่อร่วมมือกันนำตัวมาดำเนินคดี พร้อมยืนยันว่า มีหลักฐานเพียงพอ และจะหาตัวผู้กระทำความคิดผิดได้ไม่ยาก เบื้องต้น พบว่าทำเป็นขบวนการ ส่วนบริษัทที่ผลิตอุปกรณ์ดังกล่าวได้ตรวจสอบแล้วพบว่า ไม่มีที่ตั้งฐานการผลิตที่ชัดเจน น่าจะผลิตกันเอง ไม่ได้มีที่ตั้งของโรงงาน
เจ้าหน้าที่ 3 การไฟฟ้า ได้ทดลองซื้อเครื่องดังกล่าวมาตรวจสอบแล้วพบว่า 1.เป็นกล่องหรือตู้ที่มีสายไฟฟ้าสำหรับเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้า ที่เป็นเพียงตัวเก็บประจุ โดยไม่มีส่วนที่เป็นวงจรไฟฟ้า 2.เป็นอุปกรณ์ลักษณะเสียบเข้ากับเต้ารับไฟฟ้าโดยตรง และ 3.เป็นบัตรเสียบสำหรับติดหรือแปะกับตู้จ่ายไฟฟ้า ดังนั้นอุปกรณ์ดังกล่าวไม่สามารถประหยัดไฟฟ้าได้จริง และการใช้เครื่องดังกล่าวอาจส่งผลกระทบให้ระบบไฟฟ้าในบ้านผิดปกติกระทบต่อระบบจำหน่ายไฟฟ้า ซึ่งหากการไฟฟ้าเข้าไปตรวจสอบตามบ้านของประชาชนแล้วพบความผิดปกติ ผู้ที่ถูกดำเนินคดีจะเป็นประชาชนผู้ซื้อมาใช้งานเอง
ผู้ช่วยผู้ว่าการ กฟน. แนะนำวิธีประหยัดไฟฟ้าที่ใช้ได้จริงและไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ คือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าของผู้บริโภค เช่น ปิดไฟฟ้าเวลาไม่ใช้งาน การปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศไม่ต่ำกว่า 26 องศาเซลเซียส หรือ การซื้ออุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 หรือเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงๆ เช่น หลอดไฟชนิด LED เป็นต้น
ผู้สื่อข่าว:อรอุมา แคนดา