นโยบายเร่งด่วนที่ นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้การท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.) ดำเนินการมี 2 เรื่อง คือ แผนโครงการพัฒนาพื้นที่เพื่อการอยู่อาศัยในชุมชนคลองเตย (Smart Community) ที่ภายในปี 2563 จะต้องเริ่มการก่อสร้างและชุมชนคลองเตยแบบปัจจุบันต้องหมดไป ส่วนอีกโครงการ คือ แผนพัฒนาท่าเรือระนอง เพื่อรองรับการขยายศักยภาพของท่าเรือ ตั้งเป้าว่าภายในปี 2565 จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จ และจะพิจารณาหาการขนส่งทางรางมาเชื่อมด้วย ส่วนโครงการอื่น เช่น โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ให้ดำเนินการไปตามกระบวนการ พร้อมกำชับให้การทำงานสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ระยะ 8 ปี นโยบายการทำงานให้แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ นโยบายการบริหารงาน และนโยบายการดำเนินการ และจะไม่มีการสรรหาคณะกรรมการการท่าเรือแห่งประเทศไทยชุดใหม่ เนื่องจากชุดเก่ายังทำงานได้
ด้านเรือโทกมลศักดิ์ พรหมประยูร ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย บอกถึงแผนโครงการพัฒนาพื้นที่เพื่อการอยู่อาศัยในชุมชนคลองเตยว่า จะใช้เวลาสร้าง 10 ปี ตั้งแต่ปี 2563-2573 ใช้งบลงทุนไม่น้อยกว่า 8,000 ล้านบาท แบ่งการสร้างเป็น 4 ระยะ โครงการเป็นการเปลี่ยนพื้นที่ชุมชนคลองเตยปัจจุบันให้กลายเป็นตึก 4 ตึก แต่ละตึกจะมีประมาณ 1,600 ห้อง เพื่อให้คนที่อยู่ในชุมชนคลองเตยปัจจุบันมาเช่าอาศัย แต่หากใครไม่ต้องการก็เปลี่ยนเป็นรับเงินชดเชยได้ เบื้องต้น กทท. จะเป็นผู้ลงทุน แต่อนาคตอาจดึงเอกชนมาร่วมด้วย ปัจจุบันอยู่ระหว่างการวางผังก่อสร้างและสรุปยอดผู้ที่อยู่ในชุมชน ส่วนโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 กำลังรอผลจากศาลปกครองว่าจะรับคำร้องของผู้แพ้การประมูลไว้พิจารณาหรือไม่ คาดว่าเดือนตุลาคมนี้จะลงนามกับผู้ชนะการประมูลได้ ส่วนการพัฒนาท่าเรือระนองขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง คาดว่าต้องใช้งบ 5,000 ล้านบาท เรือโทกมลศักดิ์ และผู้บริหารของกทท. ยังได้พานายอธิรัฐ ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานในเขตรั้วศุลกากร ท่าเรือกรุงเทพด้วย
ผู้สื่อข่าว:ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร