ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ มีกำหนดเดินทางมาที่เมืองเอลปาโซ รัฐเท็กซัส และเมืองเดย์ตัน รัฐโอไฮโอ ในวันนี้เพื่อเยี่ยมผู้บาดเจ็บและให้กำลังใจครอบครัวผู้สูญเสียจากเหตุกราดยิงที่เกิดขึ้นในวันอาทิตย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 31 คน แต่ประชาชนในเมืองเอล ปาโซ ที่เป็นเมืองชายแดนที่มีพลเมืองส่วนใหญ่เป็นผู้มีเชื้อสายฮิสแปนิกไม่ต้องการให้ประธานาธิบดีเดินทางมา เนื่องจากเห็นว่า การดำเนินนโยบายต่อต้านผู้อพยพลี้ภัย และการกล่าวถ้อยคำที่แสดงถึงความเกลียดชังสร้างความแตกแยก
เมื่อวันจันทร์ประธานาธิบดีขอให้ชาวอเมริกันทั่วประเทศร่วมกันประณามผู้ก่อเหตุ แต่ผู้นำชุมชนเห็นว่า คำกล่าวของประธานาธิบดีไม่มีความน่าเชื่อถือ เนื่องจากตัวประธานาธิบดีเองก็มักจะทวีตข้อความในเชิงยั่วยุและสร้างความเกลียดชัง ที่ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมขึ้น ส่วนนายเบโต โอรุค ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ลงเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีหน้า ทวีข้อความว่า เอลปาโซไม่ได้ต้องการความแตกแยกเพิ่มขึ้น สิ่งที่ต้องการในเวลานี้คือการเยียวยา ดังนั้นประธานาธิบดีจึงไม่ควรเดินทางมา นอกจากนี้สมาชิกสภาคองเกรสอีกหลายคนก็แสดงความเห็นไปในทางเดียวกัน ว่าถึงเวลาแล้วที่ประธานาธิบดีจะต้องตระหนักถึงผลกระทบจากคำพูดและการกระทำของตนเอง
** อ้างอิงจากข้อความที่คนร้ายโพสต์ก่อนไปก่อเหตุกราดยิงที่ห้างสรรพสินค้าที่มองว่า ชาวฮิสแปนิกคือผู้รุกราน ซึ่งเป็นถ้อยคำที่ประธานาธิบดีมักยกขึ้นมาพูดบ่อย ๆ ทั้งเรียกชาวเม็กซิกันและอเมริกากลางว่าเป็นอาชญากร
...