ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.7สิงหาคม 2562

07 สิงหาคม 2562, 08:09น.


นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) เปิดเผยว่า ในวันนี้ อภ.จะส่งมอบสารสกัดน้ำมันกัญชาเกรดทางการแพทย์ (เมดิคัล เกรด) ให้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อนำไปใช้กับผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้รักษาอาการและโรคบางชนิด แนวทางการพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์น้ำมันกัญชาของ อภ. ออกแบบมาให้อยู่ในรูปของน้ำมันหยดใต้ลิ้น เพื่อให้ยามีประสิทธิภาพในการออกฤทธิ์เร็วขึ้น และดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้มากกว่าการให้ยาในรูปแบบรับประทาน อีกทั้ง สามารถเจือจางความเข้มข้นของยาได้ตามความต้องการของแพทย์ ผู้สั่งจ่าย และโรคที่นำไปใช้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงนามประกาศกระทรวงสาธารณสุข 2 ฉบับ แก้ระเบียบกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยการรับรองหมอพื้นบ้าน พ.ศ.2562 มีผลรับรองหมอพื้นบ้าน 3,986 คน สามารถปรุงยาได้ และมีผลต่อการพิจารณาสูตรตำรับยาของสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ซึ่งเป็นการแก้ไขประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับเดิมเมื่อวันที่ 11 เมษายน ซึ่งจะมีผลให้หมอพื้นบ้านสามารถกลับมาปรุงยา แต่ต้อง  รอจนกว่าจะมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา จึงจะสามารถมีผลบังคับได้



การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวานนี้มีการหารือถึงความผันผวนของเศรษฐกิจโลก นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี รายงาน 3 เหตุการณ์เศรษฐกิจโลกสำคัญที่อาจกระทบเศรษฐกิจไทย คือ 1.สงครามการค้า 2.เหตุการณ์ประท้วงในฮ่องกงที่กระทบกับดัชนีตลาดหุ้น 3.ค่าเงินหยวนที่อ่อนค่าลง สิ่งที่ต้องทำ คือ ไตรมาส 3-4 ซึ่งเป็นช่วงที่เหลือในปี 2562 จะทำอย่างไร  พบสัญญาณเศรษฐกิจที่มีปัญหา เช่นการลดลงของดัชนีดาวโจนส์มาก เพราะความกังวลที่ค่าเงินหยวนอ่อน ที่ผ่านมาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ส่งผลต่อภาคเศรษฐกิจจริง แต่ครั้งนี้ความขัดแย้งมาถึงการใช้ค่าเงิน เพื่อเพิ่มความได้เปรียบด้านการค้า ทำให้ไทยต้องจับตาใกล้ชิด เพราะจีนเป็นประเทศที่ถือพันธบัตรสหรัฐฯมาก สถานการณ์ค่าเงินหยวนในขณะนี้ เชื่อว่ายังไม่ถึงขั้นวิกฤติของสงครามค่าเงิน แต่ถือเป็นจุดเริ่มต้น ซึ่งทั้งหมดเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ ดังนั้นต้องเน้นเศรษฐกิจภายในประเทศ สั่งการให้กระทรวงการคลัง ไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวกับตลาดเงิน ตลาดทุน ทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง กล่าวว่า ค่าเงินหยวนอ่อนค่าลง ซึ่งหมายความว่าจีนส่งของมาขายจะมีกำไรเพิ่มขึ้นจากค่าเงินหยวนที่อ่อนค่าลง 2 บาท หรือคิดเป็น ร้อยละ13-14  นับว่าสูงมาก  ดังนั้น ไทยต้องดูแลเศรษฐกิจภายในประเทศ ซึ่งกระทรวงการคลังจะเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเดือน ส.ค.นี้ กระตุ้น 3 เรื่องคือการลงทุน การช่วยธุรกิจเอสเอ็มอีและท่องเที่ยว การประชุมครม.เศรษฐกิจ ได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 9 กระทรวง คาดว่าประชุมครั้งแรกได้วันที่ 19 ส.ค.



นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า หากสงครามการค้าไม่จบมีโอกาสเห็นค่าเงินหยวนอ่อนค่าต่อเนื่อง ทำให้ไทยเสียโอกาสการส่งออกและท่องเที่ยว นายนริศ สถาผลเดชา ผู้บริหารศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี กล่าวว่า เงินหยวนที่อ่อนค่าลงต่อเนื่อง หากเทียบกับค่าเงินบาท จะทำให้ไทยสูญเสียโอกาสทางการค้า 3 ด้าน คือ การท่องเที่ยว การส่งออก และการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ การท่องเที่ยว พบว่า ค่าเงินหยวนที่อ่อนลงเทียบกับเงินบาทราว ร้อยละ 7.4 เมื่อ เทียบกับช่วงต้นปี 2562ทำให้นักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาไทยมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นร้อยละ 7.4 เช่นกัน ซึ่งถ้าดูตัวเลขนักท่องเที่ยวชาวจีนในเดือนกรกฎาคมพบว่า ลดเหลือ 8.3 แสนคน เทียบกับอดีตที่นักท่องเที่ยวชาวจีนเคย สูงถึง 1 ล้านคนต่อเดือน ทำให้รายได้หายไปมาก การส่งออกปัจจุบันไทยส่งสินค้าไปจีนราวร้อยละ 10 ของการส่งออกทั้งหมด หรือ คิดเป็นมูลค่า 9.7 แสนล้านบาทต่อปี ซึ่งการส่งออกของไทยไปจีนชะลอลงราวร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับต้นปี เท่ากับว่า มูลค่าการส่งออกสินค้าของไทยลดลง การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเดิมนักลงทุนจีนซื้ออสังหาริมทรัพย์ไทย ต่อปีราว 3.8 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 15 ของมูลค่าตลาดคอนโดมิเนียมทั้งหมด โดยค่าเงินหยวนที่อ่อนลงก็น่าจะทำให้กำลังซื้อในส่วนนี้ลดลงไปพอสมควร



สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 1.06 ดอลลาร์ ปิดที่ 53.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 87 เซนต์ ปิดที่ 58.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม ความตึงเครียดทางการค้ากระตุ้นให้นักลงทุนถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ และในวันอังคาร ราคาทองคำปิดบวกเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน สูงสุดในรอบ 6 ปีครั้งใหม่ ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 7.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,484.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ 

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ พุ่งขึ้นราวๆร้อยละ 1 ฟื้นตัวจากดิ่งลงหนักหนึ่งวันก่อนหน้านี้ หลังจีนเข้าแทรกแซงรักษาเสถียรภาพค่าเงินหยวน ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 311.78 จุด ปิดที่ 26,029.52 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 37.03 จุด  ปิดที่ 2,881.77 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 107.23 จุด ปิดที่ 7,833.27 จุด



CR:องค์การเภสัชกรรม



 



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X