ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เปิดเผยว่าอาจต้องมีการออกมาตรการเพิ่มมากขึ้นเพื่อป้องกันเหตุรุนแรงจากอาวุธปืน หลังจากที่ในวันอาทิตย์มีเหตุกราดยิงเกิดขึ้น 2 แห่งคือที่ห้างสรรพสินค้าในเมืองเอลปาโซ รัฐเท็กซัส จากนั้นอีก 13 ชั่วโมงก็เป็นเหตุกราดยิงในสถานบันเทิง เมืองเดย์ตัน รัฐโอไฮโอ เขากล่าวว่า รัฐบาลจะจัดการให้ความเกลียดชังที่ดำเนินมานานหลายปี หมดไปจากประเทศ ทั้งเห็นว่ามือปืนที่ก่อเหตุทั้ง 2 เหตุการณ์คือผู้ป่วยทางจิตในขั้นร้ายแรง
อย่างไรก็ตาม นักการเมืองฝ่ายค้าน และนักวิจารณ์ระบุว่า ทั้ง 2 เหตุการณ์มีความเชื่อมโยงกับคำกล่าวของประธานาธิบดีเรื่องการต่อต้านผู้อพยพลี้ภัย และการแสดงความเกลียดชังในหลายวาระและโอกาส โดยในเหตุกราดยิงที่ห้างสรรพสินค้าเมืองเอลปาโซ ที่มีผู้เสียชีวิต 20 ศพ บาดเจ็บอีก 26 คน ผู้ก่อเหตุคือนายแพทริก ครูเซียส อายุ 21 ปี ชาวเมืองอัลเลน ในรัฐเท็กซัส ซึ่งเอฟบีไอระบุว่าเป็นคดีก่อการร้ายภายในประเทศเพราะพบหลักฐานเป็นข้อความที่เขาโพสต์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ที่บ่งชี้ว่ามีความเกลียดชังชนเชื้อสายฮิสแปนิก ที่เขาเห็นว่าเป็นผู้รุกราน และยกย่องมือปืนที่ก่อเหตุกราดยิงที่มัสยิดในนิวซีแลนด์ทำให้มีผู้เสียชีวิต 51 ราย โดยเมืองเอลปาโซตั้งอยู่บริเวณชายแดนสหรัฐฯกับเม็กซิโก มีประชากรประมาณ 680,000 คนส่วนใหญ่เป็นชนเชื้อสายละตินอเมริกาทั้งปัจจุบันยังมีผู้อพยพลี้ภัยเข้ามาพักในระหว่างรออนุมัติคำร้องขอลี้ภัยจำนวนมาก
ส่วนเหตุกราดยิงภายในสถานบันเทิงที่เมืองเดย์ตัน มีผู้เสียชีวิต 9 ศพ บาดเจ็บ 27 ราย ส่วนนายคอนนอร์ เบทส์ อายุ 24 ปี มือปืนถูกยิงเสียชีวิตขณะที่พยายามจะหลบหนี ผลการตรวจสอบพบว่าในกลุ่มผู้เสียชีวิตมี นางสาวเมแกน เบทส์ อายุ 22 ปีที่เป็นน้องสาวของมือปืนรวมอยู่ด้วย ส่วนนายคอนนอร์ สวมเสื้อกันกระสุนในระหว่างก่อเหตุ ขณะที่อาวุธปืนที่ใช้ เขาสั่งซื้อออนไลน์มาจากเท็กซัส แม้ว่าตามจากคำให้การของพยาน และภาพจากกล้องวงจรปิดที่พบว่า นางสาวเมแกนคือเหยื่อรายแรกของเหตุการณ์ แต่จากการเตรียมการณ์ทำให้เจ้าหน้าที่ยังไม่ตัดประเด็นก่อการร้ายภายในประเทศ
...