ศาลจังหวัดตลิ่งชันนัดฟังคำพิพากษาคดีอุบัติเหตุเมื่อวันที่12เมษายน2562 นายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ อายุ 57 ปี ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ไทยคาร์บอนแอนด์กราไฟต์ จำกัด เมาแล้วขับรถเบนซ์ประสานงากับรถของพ.ต.ท.จตุพร งามสุวิชชากุล รองผู้กำกับการสอบสวน กองกำกับการ2กองบังคับการปราบปราม เป็นเหตุให้พ.ต.ท.จตุพร และภรรยาเสียชีวิต และลูกสาวที่นั่งมาด้วยบาดเจ็บสาหัส แม้จำเลยจะกระทำผิดกรรมเดียว แต่มีหลายความผิด
ศาลจึงพิจารณาลงโทษหนักที่สุดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก สั่งจำคุก6ปี ปรับ2แสน แต่จำเลยให้การรับสารภาพและเป็นประโยชน์ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง หลังเกิดเหตุมีการสำนึกผิด ชดใช้เยียวยาผู้เสียหาย จำเลยมีอาชีพเป็นหลักแหล่งและไม่เคยรับโทษมาก่อน ศาลจึงพิพากษาตัดสิน จำคุก3ปี ปรับ1แสนบาท รอลงอาญา3ปี มีเงื่อนไขรายงานตัวต่อกรมคุมประพฤติ8ครั้งภายใน2ปี ทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์ 48 ชั่วโมงภายใน 1 ปี ห้ามดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
หลังฟังคำพิพากษานายสมชาย ออกมาขอบคุณครอบครัวผู้เสียหายที่ให้อภัย ขอบคุณศาลที่ให้โอกาสและขอบคุณสังคมที่ให้อภัย ตอนนี้รู้สึกโล่งใจ เพราะเครียดมานานกว่า3เดือน หลังจากนี้จะมอบเงินให้บุตรสาวของพ.ต.ท.จตุพร 2 คน คือ ด.ญ.พิชญาภา หรือน้องแพร งามสุวิชชากุล อายุ 12 ปี และ น.ส.ศุภาพิชญ์ งามสุวิชชากุล บุตรสาวคนโต หรือ น้องพลอย อายุ 16 ปี คนละ10,000 บาท ต่อเดือน และค่าใช้จ่ายในครอบครัวเดือนละ20,000บาท รวม40,000บาท เป็นระยะเวลา 8 ปี จนกว่าน้องพลอยจะบรรลุนิติภาวะ พร้อมฝากไปถึงพ.ต.ท.จตุพรและภรรยาขอให้ไปสู่สุคติสู่ภพภูมิที่ดี ตนเองขอสัญญาว่าจะดูแลบุตรสาวทั้ง2คนให้ดีที่สุด ส่วนตัวรู้ตัวเองว่า เป็นผู้กระทำความผิด จึงไม่กล้าสอนหรือแนะนำอะไรให้กับผู้ดื่มแอลกอฮอล์ว่าให้ทำตัวอย่างไร แต่สำหรับตนเองนั้นตัดสินใจจะเลิกดื่มตลอดชีวิต
ด้าน น้องแพรและน้องพลอย ยอมรับว่าช่วงแรกมีผลกระทบ ทำใจไม่ได้ แต่ก็มีครอบครัวและน้องที่จะต้องดูแล ทำให้ต้องเข้มแข็งและผ่านเรื่องเลวร้ายไปให้ได้ ดีกว่าจะมาโกรธแค้นกัน ที่ผ่านมาได้รับกำลังใจอย่างดี และคู่กรณีก็ดูแลเป็นอย่างดี หลังจากนี้จะตั้งใจเรียน เพราะมีความฝันอยากเป็นหมอจะได้รักษาคน
ผสข. ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ