+++การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) 09.30 น. มีการหารือเลือกสนช.5 คนเป็นคณะกรรมาธิการ(กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. เปิดเผยว่า มีผู้สมัครเข้ารับการคัดเลือกทั้งหมด 11 คน เสนอให้ที่ประชุมใหญ่ สนช.ลงมติเลือกให้เหลือ 5 คน ผู้ได้รับการเลือกทั้ง 5 คน จะต้องเป็นผู้เสียสละในการทำหน้าที่ทั้ง สนช.และ กมธ.ยกร่างฯ อีกทั้งยังต้องห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองอีกด้วย
+++สัดส่วนของสมาชิกสภาปฎิรูปแห่งชาติ(สปช.) 20 คน ชัดเจนแล้วเมื่อช่วงเย็นเมื่อวานนี้ เช่น นายมานิจ สุขสมจิตร ด้านสื่อมวลชน 222 คะแนน นายประชา เตรัตน์ สปช.ชลบุรี 209 คะแนน นางถวิลวดี บุรีกุล ด้านบริหารราชการแผ่นดิน 206 คะแนน น.ส.สมสุข บุญญะบัญชา ด้านสังคม 202 คะแนน นายเชิดชัย วงษ์เสรี สปช.ภูเก็ต 198 คะแนน เป็นต้น และเช้านี้ วิป สปช.ชั่วคราว นัดประชุม
+++การเดินทางเยือนกัมพูชาของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระหว่างวันที่ 30-31 ต.ค.2557 เป็นประเทศที่สองในอาเซียน มีกำหนดหารือกับสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา จากนั้นจะร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ 3 ฉบับ ประกอบด้วย บันทึกความเข้าใจระหว่างไทยและกัมพูชาว่าด้วยการขจัดการค้าเด็กและหญิง และการช่วยเหลือเหยื่อการค้ามนุษย์ บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟ และบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การพบกันของรัฐบาลทั้ง 2 ประเทศ จะต้องพูดคุยทุกเรื่องและอาศัยความจริงใจและไว้วางใจต่อกัน จะไม่คุยเรื่องเขาพระวิหาร เพราะเคยตกลงกันมาก่อนหน้านี้แล้วว่า จะไม่นำประเด็นที่เป็นความขัดแย้งในอดีตมาพูดคุยกันในขณะนี้ เนื่องจากเป็นช่วงเวลาของการเร่งพัฒนาช่วยเหลือประชาชน ทุกประเทศต้องช่วยยกระดับอาเซียน
+++ส่วนการขอความร่วมมือให้ดูแลกลุ่มต่อต้านรัฐบาลและหนีคดีที่หลบอยู่ในกัมพูชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้พูดคุยและนายกรัฐมนตรีกัมพูชารับปากว่าจะดูแลให้ แต่ก็ยังพบความเคลื่อนไหวทางโซเชียลมีเดียบ้าง เช่นเดียวกัน ไทยก็จะดูแลกลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลกัมพูชาในไทยเช่นกัน
+++นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า กรณีที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางไปยังกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ว่า ไปดูในการช่วยเหลือเรื่องข้าว เพราะ พล.อ.ประวิตรมีความคุ้นเคย ในฐานะที่เคยเป็นผู้นำทางทหารและรู้จักกันมาก่อน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไปตกลงและตัดสินใจเองในเรื่องต่างๆ ทั้งหมด พล.อ.ประวิตรไปครั้งนี้ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ซึ่งทางรัฐบาลจีนคงจัดรองนายกรัฐมนตรีให้มาพบปะพูดคุยกัน เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตรจะมีโอกาสได้พบปะกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ยังอยู่ระหว่างท่องเที่ยวที่จีนหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “จะไปเกี่ยวกันได้อย่างไร จะไปคุยอะไร จะไปคุยกับเขาทำไม ไม่เจอหรอก ไปเจอกันไม่ได้อยู่แล้ว และเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องห้าม เขารู้ถึงความเหมาะสม เป็นผม ผมก็ไม่เจอ แม้จะบอกว่าเจอเพราะพักโรงแรมเดียวกันผมก็ไม่เจอ ผมเจอไม่ได้ ไม่ต้องมาสายตรงกับผมเลย ก็ขึ้นเครื่องบินกลับมาเลย ไม่ต้องมาสายตรง มีเจ้าหน้าที่ดูแลกันอยู่แล้ว จะได้สงบสุข"
+++ชัดเจนแล้วว่า ในวันที่ 12 พ.ย. สนช. บรรจุวาระเรื่องถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ จากปัญหาโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด และส่งสำนวนมาให้ สนช. เมื่อวันที่ 14 ต.ค. นายพรเพชร ระบุว่า ในส่วนตัว และวิป สนช.พิจารณาอย่างละเอียดแล้วเห็นว่าแม้สำนวนจะอ้างฐานความผิดตามรัฐธรรมนูญ 2550 ที่ยกเลิกไปแล้ว แต่สำนวนถอดถอนนี้ยังได้อ้างฐานความผิดตาม พ.ร.บ.บริหารราชการแผ่นดิน 2534 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช. ที่ยังคงบังคับใช้อยู่
+++ด้านนายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษาทีมกฎหมาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า หวังว่า สนช.จะพิจารณากรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์เทียบเคียงกรณีของนายสมศักดิ์ ที่มี สนช.บางส่วนเห็นว่าไม่สามารถถอดถอนได้ เนื่องจากรัฐธรรมนูญ 2550 ยกเลิกแล้ว จึงไม่สามารถนำกฎหมายลูกมาใช้ถอดถอนได้ และหาก สนช.รับพิจารณา ก็เห็นว่าขณะนี้สำนวนคดีดังกล่าวยังไม่มีข้อยุติในเชิงพยานหลักฐาน เพราะคดีอาญาที่ ป.ป.ช.ยื่นให้อัยการสูงสุดพิจารณาเพื่อส่งเรื่องไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนั้น อัยการสูงสุดและ ป.ป.ช.ก็ยังต้องตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างอัยการสูงสุดและ ป.ป.ช.ยังไม่มีข้อยุติ
+++หลังจากที่ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มอบหมายให้นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ไปพิจารณาถึงแนวทางการรับคดีพิเศษว่าจะทำอย่างไร เพราะช่วง 2-3 ปี มีการใช้ดุลยพินิจของอธิบดีเป็นผู้พิจารณามากเกินไป และเป็นการใช้ดุลยพินิจของบุคคลใดคนหนึ่ง เห็นว่าอาจมีความบกพร่องมาก และทำให้ถูกแทรกแซงจากฝ่ายบริหารได้ง่าย รวมถึงการทำงานอาจซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่น ทำให้ภาพลักษณ์ของดีเอสไอไม่ได้รับความเชื่อมั่นจากประชาชน และเกิดความเคลือบแคลงจากสังคม พล.อ.ไพบูลย์ จึงเสนอให้ใช้ระบบพิจารณารับคดีทุกคดี โดยใช้คณะกรรมการชุดใหญ่ จำนวน 21 คน ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยให้นางสุวณา พิจารณาภายใน 2 วัน ก่อนนำผลมารายงานว่าจะคงรูปแบบเดิมหรือปรับเปลี่ยนใหม่ ทำให้ในวันนี้ นางสุวณา เรียกประชุมหารือการทำงานร่วมกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ยอมรับว่ากดดันและหนักใจในเรื่องภาพลักษณ์ที่จะต้องทำให้ดีขึ้นเพื่อสร้างความเป็นธรรม
+++นายวรพันธ์ ตู้วิเชียร หรือผู้ใหญ่วอ และนายวรท ตู้วิเชียรหรือนมสด บุตรชาย จะเข้าตรวจดีเอ็นเอที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ หลังสังคมออนไลน์กดดันว่าอาจเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยวอังกฤษ ที่เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 15 ก.ย.พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า หากผลดีเอ็นเอออกมาไม่ตรงกัน สังคมต้องให้ความยุติธรรมกับครอบครัวดังกล่าว
+++ ด้านครอบครัวของ 2 ผู้ต้องหาชาวเมียนมาร์ พร้อมอัครราชทูตเมียนมาร์เข้ายื่นหนังสือต่อสภาทนายความ เพื่อขอให้ช่วยตรวจสอบเรื่องการดำเนินคดี นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ ระบุว่า ต้องรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ก่อนที่จะให้ความกระจ่างในเรื่องขอการต่อสู้คดีอีกครั้ง
+++วันนี้ เชิญทุกคนร่วมชื่นชมและยินดีกับคนดีของเราที่เป็นต้นแบบการทำความดีของคนในสังคม ที่หอประชุมกองทัพบก ถ.ราชสีมา สถานีวิทยุจส.100 ร่วมกับ กองทัพบก และเอ็ม 150 จัดงานมอบรางวัลคนดีของเรา ประจำปี 2557 โดยมีพล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก คนที่ 1 เป็นประธานในพิธี ซึ่งสถานีวิทยุจส.100 จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยในปีนี้มีคนที่ทำความดี ผ่านการคัดเลือกจาก 10 เหตุการณ์ เช่น คนดีช่วยเจ้าหน้าที่จับกุมคนร้ายชิงทรัพย์ คนดีช่วยแจ้งเบาะแสรถหาย ช่วยเหลือคนพลัดหลง และแท็กซี่คนดี นำทรัพย์สินมูลค่ากว่าแสนบาทส่งคืนเจ้าของ เป็นต้น จส.100 เริ่มดำเนินโครงการนี้มาตั้งแต่ปี 2536 จนถึงปัจจุบัน เพื่อมอบรางวัลเกียรติยศ และประกาศเกียรติคุณของบุคคลดังกล่าวให้สังคมรับทราบ และเพื่อให้บุคคลเหล่านั้นเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เยาวชนรุ่นหลังต่อไป
+++พ.ต.ต.ประกรณ์ ทองช่วง สว.สส.สน.ประเวศ พ.ต.ต.ณัฐวุฒิ ฝั้นมงคล สว.สส.สน.ประเวศ ร่วมกันจับกุม นายนพพล ฮาหวัง อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ในข้อหา วิ่งราวทรัพย์ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือไอโฟน 5 รถ จักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีน้ำเงิน ทะเบียน 2 กภ 9480 กรุงเทพมหานคร จับได้ที่ริมถนนสรรพวุธ แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ เนื่องจาก เมื่อวันที่ 6 ก.ค.นางอมรรัตน์ สลัดทุกข์ อายุ 37 ปี นักธุรกิจเครื่องประดับจิวเวลรี่ในจังหวัดระนองและจังหวัดภูเก็ต ถูกนายนพพล กระชากกระเป๋าสะพายยี่ห้อหลุยส์วิตตอง ภายในมีทรัพย์สินหลายรายการมูลค่าประมาณ 4 แสนบาท ขณะเดินมาขึ้นรถที่จอดอยู่ถนนกรุงเทพกรีฑา เขตสะพานสูง อย่างไรก็ตาม ตำรวจสืบสวน บก.น.4 พร้อมตำรวจสืบสวน สน.บางชัน สอบปากคำนายนพพร เพราะสงสัยว่าจะเป็นคนร้ายก่อเหตุวิ่งราวนางชะแล่ม ดวงรัตน์ อายุ 70 ปี ที่ถูกคนร้ายกระชากกระเป๋าแล้วลากตัวไปกับรถไกลกว่า 300 เมตร เมื่อวันที่ 9 ต.ค. ในท้องที่ สน.บางชัน ซึ่งมีการนำคลิปเหตุการณ์มาโพสต์กันในโลกอินเทอร์เน็ต เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การภาคเสธ แต่รับในคดีของ สน.ประเวศเท่านั้น แต่เจ้าหน้าที่มีพยานบุคคลยืนยันเพราะจดจำรูปพรรณสัณฐาน รวมถึงภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์คนร้ายไว้ได้ ซึ่งตรงกับรถของนายนพพล เจ้าหน้าที่จึงขยายผลเพิ่มเติม ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สน.ประเวศ ดำเนินคดีต่อไป