*ทันสถานการณ์โลกเวลา06.30น.*

30 ตุลาคม 2557, 06:43น.


+++นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกส่วนตัวของนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย วัย 62 ปี ปฏิเสธรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์ เดอะ นิวยอร์ก โพสต์  เมื่อวันศุกร์ รายงานอ้างแหล่งข่าววงในว่า นายปูติน อยู่ระหว่างรักษาโรคมะเร็งตับอ่อน โดยอ้างแหล่งข่าวจากแพทย์ชาวเยอรมันของนายปูตินที่ไม่ระบุชื่อ ซึ่งให้การรักษาเขามาเป็นระยะเวลาหนึ่งจนกระทั่งไม่นานมานี้ นอกจากนี้ ยังอ้างว่า มีรายงานข่าวแพร่ไปทั่วทั้งในเบลารุสและโปแลนด์ในช่วงหลายเดือนว่า นายปูตินเป็นมะเร็งที่ระบบประสาทไขสันหลัง  ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เป็นที่สังเกตได้ว่า นายปูตินมักแสดงอาการเจ็บปวด แม้กระทั่งเวลาที่อยู่ต่อหน้าสาธารณะชนก็ตาม จนทำให้เกิดข่าวลือมากมายเกี่ยวกับสุขภาพของประธานาธิบดี ผู้กุมอำนาจทางการเมืองในรัสเซียมาเป็นเวลาเกือบ 15 ปี ขัดแย้งกับภาพลักษณ์ของชายผู้แข็งแกร่ง  



+++สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานความคืบหน้าเหตุดินโคลนถล่มที่เกิดจากพายุมรสุมพัดกระหน่ำภาคกลางของศรีลังกา ทำให้บ้านเรือนถูกฝังกลบ 140 หลัง พบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 16 ศพ และคาดว่ามีผู้สูญหายถึงราว 100-300 คน บ้านบางหลังถูกโคลนทับสูงร่วม 9 เมตร ตำรวจ ทหารและอาสาสมัครท้องถิ่นพยายามค้นหาผู้รอดชีวิตด้วยการขุดลึกลงไปในซากปรักหักพังและดินโคลน แต่เพราะถนนถูกตัดขาด ทำให้การขนอุปกรณ์เข้าไปกู้ภัยทำได้ลำบาก



+++ขณะเดียวกัน ทั้งอินเดียและปากีสถาน เตรียมพร้อมรับมือพายุไซโคลน นิโลฟาร์ ที่จะเคลื่อนเข้ากระหน่ำช่วงสุดสัปดาห์นี้ ด้วยความเร็วลม 220 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่า จะอ่อนกำลังลงก่อนขึ้นฝั่งที่รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียในวันเสาร์ อินเดียสั่งอพยพประชาชนริมชายฝั่งกว่า 30,000 คน ส่วนปากีสถานสั่งอพยพราว 50,000 คน



+++องค์การอนามัยโลก คาดว่า การแพร่ระบาดของเชื้ออีโบลาในไลบีเรีย อาจลดระดับลง หลังพบผู้เสียชีวิตกับผู้เข้ารักษาตัวลดลง ส่วนอัตราผู้ติดเชื้อคงที่ นายบรูซ อิลวอร์ด ผู้ช่วยผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก แถลงว่า ยังจำเป็นต้องระมัดระวัง อาจเห็นอัตราผู้ติดเชื้อกลับมาเพิ่มขึ้นอย่างกระทันหัน  ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ผู้นำสหรัฐ กล่าวว่า มีสัญญาณว่าสถานการณ์ดีขึ้น แต่สหรัฐจะยังคงเฝ้าระวังต่อไป หลักวิทยาศาสตร์จะช่วยรับมือเชื้อนี้ได้มากกว่าความหวาดกลัว กาชาดสากลระบุว่า การแพร่ระบาดกำลังลดลง เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยเพิ่มเริ่มคงที่



+++ขณะที่ สหรัฐฯขยายคำสั่งกักกันทหารที่กลับจากแอฟริกาตะวันตก ครอบคลุมทุกหมู่เหล่าในแผนป้องกันไว้ก่อน ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่อมาตรการกักกันโรคที่เข้มงวดในหลายมลรัฐ หมายความว่ากองทัพ กำหนดมาตรการเข้มงวดกว่านโยบายของรัฐบาลกลางสหรัฐฯที่ใช้กับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขพลเรือนที่เดินทางกลับจากแอฟริกาตะวันตก เป็นอย่างมาก ก่อนหน้านี้กองทัพสหรัฐฯ มีคำสั่งกักกันโรค 21 วันนายทหารที่กลับจากไลบีเรียและเซเนกัล แต่แผนล่าสุดขยายระยะเวลาเป็น 45 วัน



+++ที่อิตาลี เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กรณีรัฐบาลสหรัฐให้กักตัวทหารอเมริกันหลายสิบนายที่มาจากไลบีเรียไว้ยังฐานทัพสหรัฐใกล้เมืองเวนิซ เพื่อรอดูอาการ ทำให้นักการเมืองและชาวบ้านต่างวิตก และกล่าวโจมตีสหรัฐที่ไม่ยอมให้ทหารเหล่านี้กลับประเทศไปเลย



+++เอเอฟพี รายงานว่า การต่อสู้กับเชื้ออีโบลาเริ่มส่งผลในทางบวกมากขึ้น แต่ยังคงเกิดปัญหาด้านเฝ้าระวังที่เข้มงวดเกินเหตุเพราะความหวาดผวา เช่น ออสเตรเลีย ที่งดออกวีซ่าแก่ผู้ที่มาจากกินี ไลบีเรีย และ เซียร์ราลีโอน ซึ่งมีการระบาดรุนแรงที่สุด ประธานาธิบดีเอลเลน จอห์นสัน เซอร์ลีฟของไลบีเรีย เรียกร้องให้ออสเตรเลียทบทวนมาตรการนี้ เนื่องจากทุกครั้งที่มีการตราหน้า มีการแบ่งแยกคน ทำให้คนที่กำลังต่อสู้รู้สึกท้อใจมาก ส่วนรัฐบาลเซียร์ราลีโอนวิจารณ์ว่า สิ่งที่ออสเตรเลียทำอยู่คือการเลือกปฏิบัติ



 +++กองกำลังกบฏซีเรีย 200คน เดินทางถึงเมืองโคบานีแล้วเพื่อช่วยรักษาเมืองพรมแดนทางตอนเหนือของซีเรียให้รอดพ้นจากการยึดครองของกลุ่มหัวรุนแรงไอเอส จากการเปิดเผยของผู้บัญชาการกองทัพปลดปล่อยซีเรียหรือเอฟเอสเอ โดยทั้งหมดจะมาต่อสู้ภายใต้ธงของเอฟเอสเอที่ได้รับการสนับสนุนจากตะวันตก



+++กระแสข่าวดังกล่าวมีขึ้นขณะที่นักรบชาวเคิร์ดในอิรัก ประมาณ150 คนจากกองกำลังเปชเมอร์กา ก็เดินทางถึงตุรกีเตรียมเดินทางข้ามพรมแดนเข้าเมืองโคบานีเช่นกัน ถือเป็นบททดสอบครั้งสำคัญว่าการโจมตีทางอากาศ จะสามารถผลักดันกลุ่มไอเอสให้ล่าถอยออกจากเมืองโคบานีได้หรือไม่แต่นักรบชาวเคิร์ดที่ปกป้องเมืองอยู่ในขณะนี้ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีอยู่ระหว่าง1,000-2,000 คนกล่าวว่าพวกเขาต้องการอาวุธหนักเพื่อเอาชนะกลุ่มหัวรุนแรง



+++มีความรุนแรงเกิดขึ้นที่อิรัก นักรบกลุ่มหัวรุนแรงไอเอส จับชายชาวอิรัก 30 คน ทั้งทหารและพลเรือน มัดมือไพล่หลังนั่งเรียงแถว ก่อนจะใช้ปืนไรเฟิลจู่โจมกราดยิงสังหารหมู่ ต่อหน้าประชาชน บนถนนในย่านอัล-บาคีร์ ของเมืองฮิต ทางภาคตะวันตก นายซาบาห์ คาร์ฮูต ประธานสภาจังหวัดอันบาร์ กล่าวว่า ผู้ที่ถูกสังหารหมู่ในครั้งนี้ถูกกลุ่มไอเอสจับเป็นตัวประกัน หลังบุกยึดเมืองฮิต ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงแบกแดดไปทางทิศตะวันตกราว 140 กิโลเมตร เมื่อช่วงต้นเดือนนี้



+++ประธานาธิบดีเต็ง เส่ง ผู้นำเมียนมาร์ เชิญบุคคลสำคัญของประเทศเข้าพบในวันพรุ่งนี้ ประกอบด้วย นางออง ซาน ซูจี ผู้นำฝ่ายค้าน พล.อ.มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และ พล.อ.ฉ่วย มาน ประธานรัฐสภา เพื่อปรึกษาหารือกันที่ทำเนียบในกรุงเนย์ปิดอว์ โดยการหารือมีขึ้นไม่ถึง 2 สัปดาห์ก่อนการเยือนเมียนมาร์ของ ประธานาธิบดีโอบามา ผู้นำสหรัฐ และผู้นำโลกอื่นๆ การหารือครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่นางซูจีจะได้พบปะกับ พล.อ.มิน อ่อง หล่าย ผู้มีบทบาทสำคัญมากทางการเมืองภายใต้รัฐธรรมนูญของประเทศ และมีอำนาจยับยั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ



 +++นายหวัง ยี่ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน เปิดเผยว่าการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศความร่วมมือด้านเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกหรือเอเปก ในกรุงปักกิ่งประเทศจีนเดือนหน้า จะตกลงเห็นชอบในข้อตกลงปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นพร้อมเรียกร้องให้นานาชาติร่วมมือกันมากขึ้นทั้งนี้ ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ผู้นำจีนเริ่มรณรงค์อย่างกว้างขวางในการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นที่ฝังรากลึกในจีนตั้งแต่นายสีก้าวขึ้นมารับตำแหน่งผู้นำประเทศเมื่อ2 ปีก่อนแต่ก็มีอุปสรรคใหญ่ในการขยายขอบเขตตามจับเจ้าหน้าที่รัฐที่ฉ้อฉลซึ่งหลบหนีไปอยู่ต่างประเทศและการนำทรัพย์สินกลับมาจากต่างประเทศ จีนประกาศปฏิบัติการที่เรียกว่า ล่าสุนัขจิ้งจอก

+++นายอับดุลลาห์ อัล-บาดรี เลขาธิการองค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) กล่าวระหว่างการประชุมประจำปี น้ำมันและเงิน (Oil & Money) ที่กรุงลอนดอน อังกฤษนี้ ว่า ระดับการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกในปี 2558 คาดว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก โดยโอเปกยังไม่รีบร้อนลดการผลิต และไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนกต่อราคาน้ำมันที่กำลังตกต่ำ ปัจจุบันราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกลดลงต่ำกว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับที่บรรดาชาติสมาชิกโอเปกเห็นชอบ ทำให้เกิดกระแสวิตกว่าโอเปกจะตัดสินใจลดการผลิต ระหว่างการประชุมของกลุ่มครั้งต่อไปในวันที่ 27 พ.ย.



+++น้ำมันโลกขยับขึ้นวานนี้ หลังพบอุปสงค์สหรัฐฯไม่ได้อ่อนแอมากอย่างที่คาด สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 78 เซนต์ ปิดที่ 82.20 ดอลลาร์่ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.09 ดอลลาร์ ปิดที่ 87.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 



 +++ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับลดเล็กน้อย หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ เฟด) ยุติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(คิวอี) แต่ยืนยันว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำใกล้ศูนย์ต่อไปเป็นระยะเวลานานพอดู ดาวโจนส์ ลดลง 20.12 จุด  ปิดที่ 16,985.63 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 3.27 จุด  ปิดที่ 1,981.78 จุด แนสแดค ลดลง 15.06 จุด  ปิดที่ 4,549.23 จุด 



+++ราคาทองคำ ขยับลงพอสมควร หลังในถ้อยแถลงของเฟด อ้างถึงการฟื้นตัวของภาคแรงงานและแสดงความกังวลเล็กน้อยต่อภาวะเงินฝืดในการยุติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(คิวอี) โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 4.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,224.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X