เมื่อวานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 87 พรรษา โดยจะมีกิจกรรมต่อเนื่องหลายวัน รวมทั้งกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติที่ท้องสนามหลวงในวันที่ 5 ธันวาคม และจะมีการจัดพิธีตรึงหมุดธงชัยเฉลิมพลจะมีขึ้นในวันที่ 7 ธันวาคมนี้ เวลา 05.00 น. ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และพระราชทานธงชัยเฉลิมพล ณ พระที่นั่งชุมสาย บริเวณหน้าศาลาสหทัยสมาคมในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์
ส่วนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้จะพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของกระทรวงยุติธรรม โดย พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม จะเสนอย้าย 3 ตำแหน่ง คือ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม โดยมีการคาดว่า นางสุวณา สุวรรณจูฑะ รองปลัดกระทวงยุติธรรม รักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ ขึ้นเป็นอธิบดีดีดีเอสไอ เพื่อลดกระแสต้านจากคนในที่ไม่ต้องการให้ทาบโอนตำรวจมาเป็นอธิบดีดีเอสไอ และให้นายวีระยุทธ สุขเจริญ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม มาเป็นอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน
ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย จะนำเสนอบัญชีรายชื่อข้าราชการระดับสูงในสังกัดกระทรวงมหาดไทย เสนอต่อที่ประชุม ครม. เป็นวาระจรเพื่อทราบ แต่งตั้งตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัด(ผวจ.) และผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย แทนผู้เกษียณเมื่อ 30 กันยายน ที่ผ่านมา รวม 22 ตำแหน่ง
โดยในบัญชีรายชื่อผู้ที่คาดว่า จะได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด (ผวจ.) ประกอบด้วย 1.นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม รองผวจ.นครศรีธรรมราช เป็นผวจ.กระบี่ 2.นายสามารถ วราดิศัย รองผวจ.ยะลา เป็นผวจ.ยะลา 3.นายสายันห์ อินทรภักดิ์ รองผวจ.ยะลา เป็นผวจ.ปัตตานี 4.นายชาติชาย อุทัยพันธ์ รองผวจ.ชุมพร เป็นผวจ.นครปฐม 5.นายปิติ แก้วสลับสี รองผวจ.สุโขทัย เป็นผวจ.สุโขทัย 6.นายณรงค์ อ่อนสอาด รองผวจ.สิงห์บุรี เป็นผวจ.อุทัยธานี 7.นายณรงค์ พลละเอียด รองผวจ.อุดรธานี เป็นผวจ.มหาสารคาม 8.นายณรงค์ ธีระจันทรางกูร รองผวจ.ตราด เป็นผวจ.ตราด 9.นายชยาวุธ จันทร รอง ผวจ.นครราชสีมา เป็นผวจ.สมุทรสงคราม 10.นายประยูร รัตนเสนีย์ รอง.ผวจ.พังงา เป็นผวจ.พังงา11.นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ รองผวจ.ชลบุรี เป็นผวจ.เพชรบูรณ์ 12.นายพินิจ บุญเลิศ รอง ผวจ.ระนอง เป็นผวจ.ระนอง 13.นายยิ่งยศ ธนะจันทร์ รอง ผวจ.เลย เป็น ผวจ.อำนาจเจริญ 14.นายสุชาติ นพวรรณ รอง ผวจ.หนองคาย เป็นผวจ.หนองคาย 15.นายสมดี คชายั่งยืน รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) เป็นผวจ.บึงกาฬ 16. นายวินัย วิทยานุกูล รองผวจ.นครราชสีมา เป็นผวจ.แพร่ 17.นายชาญนะ เอี่ยมแสง รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) เป็น ผวจ.ลำพูน 18.นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา รองผวจ.ภูเก็ต เป็นผวจ.ชุมพร
นอกจากนี้ ครม.จะพิจารณากฎหมายสำคัญๆ หลายฉบับอาทิ ร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. ร่าง พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตอุตสาหกรรม ฉบับที่ พ.ศ....ร่าง พ.ร.บ.เวนคืนอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างกิจการรถไฟฟ้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ รวมทั้งจะมีการทบทวนโครงการกองทุนตั้งตัวได้ วงเงิน 1,300 ล้านบาท และพิจารณาอนุมัติจ่ายเงินช่วยชาวสวนยางพาราไร่ละ 1,000 บาท
ส่วนการประชุมของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) วันนี้ มีวาระพิจารณาการคัดเลือก สปช. เข้าทำหน้าที่คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ จำนวน 20 คน ตามที่เมื่อวานนี้ มีการหารือภายในของสมาชิก สปช.ทั้ง 11 ด้าน จากนั้นก็เข้าร่วมการประชุมชุดใหญ่ และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวางเพื่อคัดค้านการให้คนนอกเข้าร่วมเป็นกรรมาธิการยกร่างฯ และมีการลงมติด้วยคะแนน 175 ต่อ 39 งดออกเสียง 5 เสียง คือ ไม่ให้มีคนนอกเข้ามาเป็นสัดส่วนกรรมาธิการยกร่างฯ โดย 20คน เป็นสปช.ทั้งหมด
ส่วนเรื่องกระบวนการคัดสรรสมาชิก สปช.เข้าทำหน้าที่กรรมาธิการยกร่างฯ ทางวิปสปช.ชั่วคราว รับผิดชอบเสนอแนวทางคัดสรรสมาชิก สปช.เข้าทำหน้าที่กรรมาธิการยกร่างฯ 20 คน โดยกำหนดให้เสนอที่ประชุม สปช. ช่วงบ่ายวันนี้
ในวันนี้ยังต้องติดตามความเคลื่อนไหวของหน่วยงานต่างๆ จากที่ พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีแสดงความเป็นห่วงแนวโน้มเศรษฐกิจในปีหน้า เพราะเศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัว และบอกว่า รัฐบาลมีมาตรการรองรับไว้แล้ว โดยกล่าวว่า เศรษฐกิจไทยที่ผ่านมาเป็นเรื่องของภาคเอกชน ภาครัฐเป็นผู้สนับสนุน แต่วันนี้รัฐบาลจะพยายามสร้างความเข้มแข็งให้เกิดขึ้น ทั้งพอใจการทำงานการทำงานในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา
ซึ่งนายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่ากระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างจัดทำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบที่สอง เพื่อให้เศรษฐกิจในปี 2558 ขยายตัวได้มากขึ้นจากปีนี้ โดยคาดว่า ภายในเดือนธันวาคมนี้ จะสามารถประกาศใช้ได้ และคาดแนวโน้มอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจปีนี้ จะสามารถขยายตัวได้มากกว่าร้อยละ 1.5 แม้จะมีการประเมินว่า ภาคการส่งออกจะขยายตัวติดลบก็ตาม เพราะเครื่องชี้เศรษฐกิจสำคัญเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของการท่องเที่ยวที่ยังขยายตัวดี และ การบริโภคที่ดีขึ้นสะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในประเทศที่ดีขึ้น
ทั้งนี้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลังเตรียมปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยใน ปีนี้รอบสุดท้ายในวันที่ 30 ตุลาคม โดยมีแผนที่จะปรับลดต่ำกว่าที่คาดการณ์เมื่อเดือนกรกฎาคม ที่คาดว่าจะขยายตัวอยู่ในระดับร้อยละ 2 มีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 1.5-2.5 ซึ่งทาง สศค.ได้ทยอยปรับลดคาดการณ์ จีดีพีในปีนี้ลงอย่างต่อเนื่อง จากช่วงต้นปีคาดการณ์ว่าจะขยายตัวได้ที่ร้อยละ 4 ต่อมาในเดือนมีนาคม ปรับลดลงเหลือร้อยละ 2.6 และ ในเดือนกรกฎาคมปรับลดเหลือร้อยละ 2 ขณะที่ การปรับคาดการณ์ในเดือนตุลาคมนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายของปีนี้
...