ผู้นำสหรัฐ ลดความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์อีโบลาในสหรัฐอเมริกา

ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ผู้นำสหรัฐ ยังมีทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับสถานการณ์ไวรัสอีโบลาในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากมีการเพิ่มขั้นตอนและรายละเอียดในการตรวจสุขภาพผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่พบการแพร่ระบาด และผู้ที่ติดเชื้อไวรัสยังจำกัดอยู่ในกลุ่มผู้ที่สัมผัสกับผู้ป่วย นพ.ทอม ฟรีเดน ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและควบคุมโรค ( ซีดีซี ) แถลงเรื่องการยกระดับมาตรการเฝ้าระวังเชื้อไวรัสอีโบลา ผ่านการคัดกรองผู้โดยสารขาเข้าตามสนามบินขึ้นอีกขึ้น ด้วยการจับตาทุกคนที่เดินทางมาจากไลบีเรีย กินี และเซียร์ราลีโอน ไม่ว่าจะเป็นผู้ถือสัญชาติใดก็ตาม หากเดินทางเข้าสหรัฐหลังเยือนหนึ่งในประเทศเหล่านี้ ต้องรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกวัน เพื่อวัดอุณหภูมิร่างกายวันละ 2 ครั้ง ต่อเนื่องเป็นเวลา 3 สัปดาห์

มาตรการดังกล่าวจะเริ่มใช้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 27 ต.ค. เป็นต้นไป โดยมี 6 รัฐร่วมโครงการนำร่อง ได้แก่ นิวยอร์ก เพนซิลเวเนีย แมริแลนด์ เวอร์จิเนีย นิวเจอร์ซีย์ และจอร์เจีย ก่อนขยายต่อไปจนครบทั้ง 50 รัฐ และอีก 1 เขตปกครองพิเศษ คือกรุงวอชิงตัน เมืองหลวงของประเทศ ซึ่งนอกจากเข้ารับการตรวจวัดอุณหภูมิแล้ว ผู้โดยสารแต่ละคนต้องมอบชื่อและข้อมูลส่วนตัวของบุคคลใกล้ชิดให้กับทางการด้วย หากบุคคลใดไม่ปฏิบัติตามหรือฝ่าฝืน เจ้าหน้าที่สามารติดตามตัวได้ทันทีโดยไม่ต้องขออนุญาต

มาตรการล่าสุดของซีดีซีได้รับคำชมจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ ซึ่งแสดงความมั่นใจด้วยว่า จะช่วยสร้างเกราะคุ้มกันเชื้อไวรัสอีโบลา ซึ่งคร่าชีวิตชาวโลกตั้งแต่เดือนมี.คไปแล้วกว่า 4,870 ศพได้ ขณะเดียวกันมีรายงานอาการของน.ส.นีนา แฟม และน.ส.แอมเบอร์ วินสัน พยาบาล 2 คนในเมืองดัลลัส รัฐเทกซัส ดีขึ้นเป็นลำดับ หลังติดเชื้อไวรัสอีโบลาจากชายชาวไลบีเรียที่เธอดูแล

อย่างไรก็ตามองค์การอนามัยโลก ประกาศว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสอีโบลา เพิ่มเป็น 4,877 ศพโดยเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้น 322 ศพนับตั้งแต่สัปดาห์ก่อน และส่วนใหญ่อยู่ในไลบีเรีย กินี และเซียร์ร่า ลีโอน

...F163..