ตร.สืบกรณีผู้ก่อเหตุบุกรร.มีอาวุธปืน ขณะที่เจ้าของคณะกระตั้วแทงเสือขอความเป็นธรรม

ช่วงสายวันนี้ พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้ช่วย ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) เดินทางมาที่สถานีตำรวจนครบาลบางขุนเทียน เพื่อประชุมกับพ.ต.อ.ลือศักดิ์ ดำเนินสวัสดิ์ ผู้กำกับการ สถานีตำรวจนครบาลบางขุนเทียน และเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.บางขุนเทียน เพื่อติดตามคดีที่กลุ่มผู้ก่อเหตุบุกเข้าไปทำร้ายครูและนักเรียนในโรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ที่กำลังสอบ PAT5 เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 

จากนั้น พล.ต.ท.สุวัฒน์ เปิดเผยว่า มาติดตามสำนวนคดี ซึ่งพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ฝากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์พร้อมกำชับให้สอบสวนเอาผิดกลุ่มผู้ก่อเหตุในฐานะผู้ต้องหาในทุกข้อหาที่เป็นไปได้ โดยให้พิจารณาอย่างรอบคอบและเร็วที่สุด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งทำคดีเต็มที่ แต่อาจต้องใช้เวลามากกว่า 1 สัปดาห์ เนื่องจากต้องพิจารณาว่าพฤติการณ์ของผู้ต้องหาจะเข้าข่ายความผิดข้อหาใดบ้าง จึงเป็นไปได้ที่จะมีการแจ้งข้อหาเพิ่ม โดยขณะนี้ยังมีประเด็นที่ต้องสืบต่อว่ากลุ่มผู้ต้องหามีอาวุธปืนขณะเกิดเหตุจริงหรือไม่ รวมไปถึงการพิจารณาว่าจะสามารถแจ้งข้อหาอั้งยี่ ซ่องโจรกับกลุ่มผู้ต้องหาได้หรือไม่ ย้ำว่าการแจ้งข้อหาไม่ใช่การจงใจยัดเยียดความผิดให้ผู้ต้องหา แต่เป็นการทำตามกระบวนการทางกฎหมายที่ต้องเอาผิดกลุ่มผู้ต้องหาให้ได้มากที่สุด

ขณะเดียวกันนายไพศาล สุวรรณชัย เจ้าของคณะกระตั้วแทงเสือ คณะศิษย์วัดสิงห์ ได้มาขอความเป็นธรรมว่าคณะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งเล่าว่า ในวันเกิดเหตุตนเองขี่รถสวนกับกลุ่มผู้ต้องหาที่กำลังบุกเข้าไปในโรงเรียน ซึ่งก็ยืนยันว่าไม่เห็นว่ากลุ่มผู้ต้องหามีอาวุธปืนในครอบครอง แต่ได้ยินเสียงวงดนตรีดังมาตั้งแต่ช่วงกำลังฉลองพระใหม่ จากนั้นในคืนวันเกิดเหตุช่วงเที่ยงคืน ก็มีคนร้าย 2 คน ยิงอาวุธปืน 1 นัดเข้ามาที่บริเวณบ้าน ซึ่งสันนิษฐานว่าอาจเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ที่เข้าใจผิดว่าคณะรับงานดนตรีให้กลุ่มผู้ต้องหาจึงต้องการมาขู่เอาชีวิต อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า รู้จักกลุ่มผู้ต้องหาทุกคนเพราะเคยสอนดนตรีให้ โดยเฉพาะนายวัลลภ นุชแฝง หรือเอกไฝที่ออกไปตั้งคณะดนตรีของตัวเองที่ชื่อว่าคณะกระตั้วแทงเสือ คณะศิษย์หลวงพ่อขาว ซึ่งเท่าที่รู้จักมากลุ่มผู้ต้องหาแต่ละคนก็ไม่ได้มีนิสัยใจร้อน และยอมรับว่า การที่สังคมเข้าใจว่าคณะเป็นผู้รับงานดนตรีให้กลุ่มผู้ต้องหา ส่งผลให้งานของคณะถูกยกเลิกไปมากกว่าร้อยละ 70 จึงขอให้สังคมเข้าใจใหม่ให้ถูกต้อง

โดยก่อนหน้านี้ ยังมีนายอภิรักษ์ ชัชอานนท์ หรือ “เสี่ยโป้” พร้อมพวกกว่า 100 คน เดินทางมาที่สถานีตำรวจนครบาลบางขุนเทียน เพื่อขอเข้าพบกลุ่มผู้ต้องหาที่มีการโพสต์ข้อความทำนองว่าจะเจอใครก็ได้ ซึ่งถือว่าเป็นพฤติการณ์ที่ยอมรับไม่ได้ และต้องการให้กลุ่มผู้ต้องหาขอโทษครูและนักเรียนทั้งหมด อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อนุญาตให้เสี่ยโป้เข้าพบกลุ่มผู้ต้องหา เพราะไม่ใช่บุคคลที่สนิทกัน และขอให้เสี่ยโป้กับพวกกลับไป ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือด้วยดี 

...

ผสข.ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร