นายพิชิต ชื่นบาน ในฐานะคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย และที่ปรึกษากฎหมายทีมทนายความคดีโครงการรับจำนำข้าว แถลงข่าวหลังจากที่คณะกรรมการป้องกันและปราบการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) มีมติส่งสำนวนการถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) พิจารณา โดยตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการรวบรัดและเร่งรีบ ทั้งที่อัยการสูงสุดได้ชี้ว่าหลักฐานการชี้มูลความผิดไม่สมบูรณ์ และการไต่สวนยังไม่สิ้นสุด โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เป็นเหตุให้มีการกล่าวหาในคดีอาญา และคดีถอดถอนออกจากตำแหน่ง นอกจากนี้ ก่อนการชี้มูลความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ คดีการถอดถอนเป็นคดีที่แยกกับคดีอาญา แต่ป.ป.ช.กลับรวมสำนวนเข้าด้วยกัน จนกระทั่งอัยการสูงสุดชี้ว่ามีข้อไม่สมบูรณ์ ป.ป.ช.จึงแยกสำนวนถอดถอนออกจากสำนวนคดีอาญา ซึ่งเห็นว่าเป็นการไม่ยุติธรรมขณะเดียวกันได้ตั้งข้อสังเกตถึงมติป.ป.ช.เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2557 ที่ชี้มูลความผิดน.ส.ยิ่งลักษณ์ มีพฤติกรรมว่าส่อใช้อำนาจให้เกิดความเสียหายต่อประเทศซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 178 แต่มติที่ประชุมป.ป.ช.เมื่อวานนี้กลับไม่กล่าวถึงความผิดตามรัฐธรรมนูญมาตรา178อีก กลับอ้างอิงกฎหมายลูกคือพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ดังนั้นจึงขอเรียกร้องสนช. พิจารณาให้เกิดความยุติธรรมตามคำสั่งที่ 63/2557 และพิจารณาว่า สนช.มีอำนาจในการพิจารณาเรื่องถอดถอนดังกล่าวหรือไม่ เนื่องจากรัฐธรรมนูญปี 2550 สิ้นสุดแล้ว ทั้งนี้ทีมทนายไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมือง แต่เป็นการอำนวยความยุติธรรมให้แก่น.ส.ยิ่งลักษณ์