*นายกฯไทย-เมียนมาร์ พร้อมเป็นหุ้นส่วนพัฒนาการค้า การลงทุน พื้นที่ชายแดนครบวงจร*

10 ตุลาคม 2557, 10:46น.


การหารือข้อราชการเต็มคณะร่วมกันระหว่างพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กับประธานาธิบดีเต็ง เส่ง ของเมียนมาร์  รอ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปผลการหารือว่า นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณรัฐบาลเมียนมาร์ ในโอกาสเดินทางเยือนอย่างเป็นทางการ เ ชื่อมั่นว่าภายใต้การนำของประธานาธิบดีเมียนมาร์ จะสามารถพัฒนาให้ประเทศก้าวไปข้างหน้าได้อย่างต่อเนื่องและมั่นคง ประเทศไทย พร้อมที่จะขยายความร่วมมือกับเมียนมาร์ในทุกด้านอย่างต่อเนื่อง นายกรัฐมนตรีหวังว่า ทั้งสองประเทศจะดำเนินความร่วมมือในระยะต่อไปในฐานะ หุ้นส่วนเพื่อความมั่นคงและการพัฒนา (Partnership for Security and Development)? โดยเฉพาะตามแนวพื้นที่ชายแดน และหวังว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศจะมีความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด ทั้งในด้านการพัฒนาความเชื่อมโยง และการเสริมสร้างเอกภาพและความเข้มแข็งของอาเซียน ทั้งนี้ ไทยพร้อมร่วมมือกับเมียนมาร์ในการจัดระเบียบและพัฒนาพื้นที่ชายแดนอย่างครบวงจร ทั้งด้านความมั่นคง และเศรษฐกิจ เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาข้ามพรมแดน ทั้งปัญหายาเสพติด แรงงานผิดกฎหมาย และการค้ามนุษย์ รวมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิต ทั้งในด้านสาธารณสุข การศึกษา การฝึกอาชีพ และการพัฒนาชุมชน โดยอาจดำเนินความร่วมมือกับมิตรประเทศอื่นที่มีความสนใจ รัฐบาลไทยมีนโยบายพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษตามแนวชายแดน โดยมีเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอดเป็นโครงการนำร่อง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการส่งเสริมการค้าการลงทุนชายแดน และเป็นการสร้างงานสำหรับประชาชนในพื้นที่ทั้งสองฝั่ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวแสดงความพร้อมที่จะผลักดันโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ให้มีความคืบหน้าเป็นรูปธรรมโดยเร็วด้วย นายกรัฐมนตรีได้เสนอให้ทั้งสองประเทศร่วมมือกันจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวอย่างครบวงจร ยืนยันจะดูแลแรงงานเมียนมาร์เช่นเดียวกับแรงงานไทย



ด้านประธานาธิบดีเต็ง เส่ง กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่เลือกเยือนสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์เป็นประเทศแรก ขณะนี้มี 36 ประเทศที่เข้ามาลงทุนกว่า 720 โครงการในเมียนมาร์ โดยไทยเป็นผู้ลงทุนลำดับ 2 ซึ่งประธานาธิบดีเมียนมาร์รู้สึกยินดีถึงความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ



Cr: Myanmar Information Ministry

ข่าวทั้งหมด

X