การรายงานตัวของสมาชิกสภาปฎิรูปแห่งชาติหรือ สปช.นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ หนึ่งในสมาชิกสปช.เปิดเผยถึงการทำงานในการปฎิรูปว่า ให้ความสำคัญเรื่องความเป็นธรรมในสังคม เช่นเรื่องการจัดสรรทรัพยากร จากนั้นจึงแก้ปัญหาเรื่องโครงสร้างอำนาจรัฐ แล้วจึงเข้าสู่การปฏิรูปการเมือง ส่วนกรอบระยะเวลาการทำงานของสปช.ที่หลายฝ่ายมองว่าอาจไม่เพียงพอและต้องขอเวลาเพิ่ม ส่วนตัวเห็นว่าไม่ควรขอขยายเวลาการทำงานเพิ่มเติม ควรทำตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดกรอบไว้ เช่นเดียวกันกับการทำประชามติ รัฐธรรมนูญที่จะร่าง ที่ขณะนี้ยังไม่สามารถกำหนดได้ ต้องรอดูภายหลังรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้น ว่าจะได้รับความเห็นชอบของประชาชนหรือไม่ แต่หากที่สุดแล้ว ต้องทำประชามติ ก็ต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพราะในรัฐธรรมนูญไม่ได้มีการกำหนดให้ทำประชามติ
นายบวรศักดิ์ ระบุถึงกระแสข่าวว่า ตัวเองเป็นหนึ่งในบุคคลที่จะได้ตำแหน่งประธาน สปช.ว่า ยังเป็นเพียงกระแสข่าวทุกอย่าง ขอให้เป็นไปตามมติของ สปช. เพราะส่วนตัวมองว่ายังมีผู้อาวุโสอีกหลายคน โดยยอมรับว่า มีชื่อบุคคลในใจแล้วแต่ไม่ขอเปิดเผย เช่นเดียวกันกับตำแหน่งรองประธาน สปช.คนที่1 และคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่ยังไม่ขอพูดถึงเพราะเป็นเรื่องของอนาคต และที่สำคัญต้องมีการหารือกันก่อนว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ต้องการอะไรและความต้องการนั้นตรงกับความหวังของตัวเองหรือไม่ นอกจากนี้มองว่าสภาปฏิรูปแห่งชาติที่เกิดขึ้นมาบนความหวังของคนทั้งประเทศ สปช.จึงต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ภายใต้กรอบเวลาที่จำกัด จึงต้องหาแนวทางร่วมกัน ว่าจะทำงานอย่างไรให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ส่วนยอดผู้มารายงานตัวสปช.วันที่3 ล่าสุดเดินทางมาแล้ว 14 คน เช่น นายประดิษฐ์ เรืองดิษฐ์ นายวุฒิสาร ตันไชย และนายจรัส สุวรรณมาลา โดยสมาชิกสปช.จะรายงานตัวได้ถึงวันที่15ต.ค. ก่อนที่จะมีการประชุมนัดแรกในวันที่21ต.ค.
สานนท์