+++ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวถึงกระแสข่าวที่จะมีการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)โดยแต่งตั้งนายอำนวย ปะติเส อดีตรมช.คลัง เข้ามาดำรงตำแหน่งรมช.เกษตรและสหกรณ์ ว่า คงต้องมาช่วยกัน และขอให้รอเรื่องการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งก่อน
+++เรื่องการเตรียมตั้งคณะกรรมาธิการการยกร่างรัฐธรรมนูญ 33 คน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อถึงเวลาก็เสนอรายชื่อขึ้นมา แต่สุดท้ายแล้วนายกรัฐมนตรีจะเป็นคนกำหนดตัวรัฐมนตรีขึ้นมา 5-10 คน แล้วเลือกเพียง 5 คน ส่งเข้าเป็นกรรมาธิการยกร่างฯ และหากรัฐมนตรีคนใดได้เข้าเป็นกรรมาธิการยกร่างฯ ก็จะต้องลาออกจากรัฐมนตรีตามที่รัฐธรรมนูญชั่วคราวบัญญัติไว้ เพราะคนที่เป็นรัฐมนตรีจะต้องทำงานให้เต็มเวลา ตามที่ระบุว่า สปช. จะเริ่มประชุมวันที่ 21 ต.ค. หากประชุมในวันที่ 21 ต.ค. เป็นวันแรก ต้องนับวันนั้นเป็นวันที่ 1 แล้วเวลาอีก 60 วัน ต้องมีกรอบที่ให้คณะกรรมาธิการยกร่างฯ ว่าจะยกร่างรัฐธรรมนูญในลักษณะใด
+++ความคืบหน้าการจัดทำร่าง พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ เป็นกฎหมายที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) รับไปปรับแก้ เมื่อ สตช.ปรับปรุงเสร็จจะส่งกลับมาให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่กำกับ สตช. พิจารณา นายวิษณุ กล่าวว่า เข้าใจว่าร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวได้ส่งถึงพล.อ.ประวิตรแล้ว เนื่องจากมีการรายงานในวันที่ประชุมร่วม ครม.และ คสช.ว่าแก้ไขพ.ร.บ.ดังกล่าวเสร็จแล้ว
+++วันนี้สมาชิกสภาปฎิรูปแห่งชาติ(สปช.) ทยอยรายงานตัวต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 รวม 2 วัน มีสมาชิก สปช. เข้ารายงานตัวแล้ว 104 คน และจะเปิดให้เข้ารายงานตัวไปจนถึงวันที่ 15 ต.ค.
+++สำหรับความเคลื่อนไหวตำแหน่งประธาน สปช. กับรองประธาน สปช. 2 คน สมาชิก สปช.ส่วนใหญ่ให้ความเห็นในการเสนอชื่อ นายเทียนฉาย กีระนันทน์ สมาชิก สปช. เป็นประธาน สปช. และเสนอชื่อนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นรองประธาน สปช.คนที่ 1 และ น.ส.ทัศนา บุญทอง เป็นรองประธาน สนช.คนที่ 2 สมาชิก สปช.ส่วนใหญ่เห็นว่านายเทียนฉาย มีความ เหมาะสม เพราะมีความอาวุโสและมาจากสายวิชาการ วางตัวเป็นกลางได้ดี อีกทั้งเคยเป็นอดีตอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีรายงานระบุว่า นายบวรศักดิ์ อาจจะไปรับตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญอีก 1 ตำแหน่งด้วย
+++สำหรับบุคคลที่ไม่ได้รับการคัดเลือกเป็นสปช. วันนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) จะส่งประวัติให้กับคสช. ทั้งหมด 7,370 คน คสช.จะนำรายละเอียดกลับมาพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งบุคคลเหล่านี้อาจจะได้รับการพิจารณาเข้ามาช่วยเหลืองานด้านการปฏิรูปประเทศ เนื่องจากเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ
+++นายกฯ จะเดินทางกลับจากพม่า ในการเดินทางเยือนตั้งแต่เมื่อวานนี้ และช่วงบ่ายจะเดินทางกลับ พล.อ.ประยุทธ์ หารือข้อราชการเต็มคณะกับ พล.อ.เต็ง เส่ง ประธานาธิบดีพม่า ครอบคลุมประเด็นสำคัญทั้งในระดับทวิภาคีและความร่วมมือในภูมิภาค โดยเฉพาะทั้งด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ เช่น การจัดระเบียบและพัฒนาพื้นที่ชายแดนอย่างครบวงจร ความร่วมมือในการพัฒนาเส้นทางคมนาคมทางถนนเพื่อเชื่อมโยงระหว่างไทย-พม่า การเปิดและยกระดับเป็นจุดผ่านแดนถาวรเพิ่มเติม ความร่วมมือด้านพลังงานและแรงงาน ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ได้แก่การเดินหน้าโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย และความร่วมมือด้านการเงินและตลาดทุน
+++ ด้าน ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ กล่าวว่า เป็นการเปิดทางสู่การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ ท่าเรือน้ำลึกทวาย ซึ่งเริ่ม มีความชัดเจนในเฟสแรก ที่พม่าเปิดให้เอกชนยื่นประ มูลในวันที่ 22 ก.ย.คาดว่าจะทราบผลเอกชนที่ชนะประมูลภายในเดือนนี้ ซึ่งผู้ชนะการประมูลระยะที่ 1จะเป็นผู้ลงทุนโครงการนิคมอุตสาหกรรมในระยะแรกบนพื้นที่ 27 ตารางกิโลเมตร จาก 190 ตารางกิโลเมตร และทำถนนเชื่อม 140 กิโลเมตรมายังประเทศไทย สิ่งที่ไทยจะเสนอรัฐบาลพม่า คือ เดินหน้าโครงการเฟสสองทันที ซึ่งเฟสที่สองจะมีความสำคัญมาก เนื่องจากจะมีการลงทุนสาธารณูปโภคต่างๆของโครงการ เช่น ท่าเรือน้ำลึกโรงไฟฟ้าและอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ และจะชวนญี่ปุ่นมาร่วมลงทุนด้วย
+++การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) วันนี้ พิจารณาร่างกฎหมายอีก 7 ฉบับ หลังจากประชุมคณะกรรมาธิการทั้ง 16 คณะเพื่อเลือกประธานและรองประธาน และแต่งตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสนช. (วิปวุฒิ)
+++นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) กล่าวถึง คดีอาญาในโครงการรับจำนำข้าวของนางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะมีการประชุมของคณะทำงานร่วมระหว่างป.ป.ช.กับอัยการสูงสุด (อสส.) ในวันนี้ เวลา 10.00 น. ว่า อสส.จะเป็นผู้ส่งสำนวนฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือไม่ ว่า หากการประชุมร่วมในวันนี้ ไม่สามารถสรุปสำนวนในการส่งฟ้องโดย อสส.ได้ แต่ละฝ่ายจะต้องกลับไปพิจารณา และกลับมาประชุมร่วมกันอีกครั้ง ซึ่งในการประชุมครั้งถัดไปจะทราบข้อสรุปว่า หากอสส.มีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง ป.ป.ช.ก็จะเป็นผู้ฟ้องคดีนี้เอง
+++มติป.ป.ช.ส่งสำนวนคดีถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ กรณีโครงการรับจำนำข้าวไปให้ สนช.พิจารณาถอดถอนตามอำนาจหน้าที่ต่อไป โดยเป็นการชี้มูลความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตามมติเดิมที่เคยชี้มูลว่า น.ส. ยิ่งลักษณ์มีพฤติการณ์ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญปี 2550 มาตรา 178 และส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 มาตรา 11(1) กรณีไม่ยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล คาดว่า จะส่งสำนวนการถอดถอนดังกล่าวไปให้ สนช.ได้ในสัปดาห์หน้า
+++ส่วนการถอดถอนอดีต 39 ส.ว. กรณีแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องที่มา ส.ว.โดยมิชอบ ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อเท็จจริงของเจ้าหน้าที่ คาดว่าจะส่งเรื่องให้ที่ประชุม ป.ป.ช.พิจารณาได้ในสัปดาห์หน้า
+++นายสรรเสริญ กล่าวถึงกรณี พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ผู้ช่วย ผบ.ทบ. และสนช. ยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินมาแล้วเกิดความผิดพลาด ทำให้มีจำนวนทรัพย์สินมากถึง 79 ล้านบาท ว่า ป.ป.ช.ได้ส่งหนังสือประสานไปยัง พล.อ.ปรีชา เรียบร้อยแล้ว ให้ชี้แจงถึงการยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินฯ ผิดพลาด ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินที่สามารถให้ผู้ยื่นชี้แจงได้ว่า จงใจหรือมีเจตนาผิดพลาดในการยื่นบัญชีทรัพย์สินหรือไม่ โดยให้ชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรส่งมายัง ป.ป.ช.
CR:กระทรวงข่าวสารของพม่า