*สรุปข่าว19.35น.*

09 ตุลาคม 2557, 19:45น.


+++นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย( ปภ.)  คาดว่า ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกจากประเทศจีน แผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงบางแห่ง ปภ.ได้ประสาน 17 จังหวัด แบ่งเป็น ภาคเหนือ 10 จังหวัด ได้แก่ อุตรดิตถ์ ลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน และตาก ภาคกลางตอนบน 7 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี สุโขทัย พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 8 กำแพงเพชร เขต 9 พิษณุโลก เขต 10 ลำปาง เขต 15 เชียงราย เตรียมรับมือพายุฝนฟ้าคะนอง ระหว่างวันที่ 10 - 13 ต.ค. ประชาชนควรเตรียมความพร้อมรับมือด้วย



+++พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการเคลื่อนไหวกลุ่มใต้ดินเพื่อต่อต้านการทำงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยอมรับว่าแนวความคิดของคนเป็นเรื่องเปลี่ยนยาก กองทัพบกในฐานะที่เป็นกลไกของรัฐบาล ก็ได้ติดตามสถานการณ์มาโดยตลอด ภายใต้การดูแลของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) โดยให้แต่ละกองทัพภาค ทำความเข้าใจกับประชาชนทุกพื้นที่ นายกรัฐมนตรี ได้ให้โอกาสทุกฝ่ายเดินเข้ามาพูดคุยทำความเข้าใจกัน เพื่อให้เกิดความปรองดอง เน้นย้ำกับเจ้าหน้าที่ให้ควบคุมสถานการณ์ให้ได้ ส่วนกรณีที่มีบางกลุ่มพยายามจะใช้ประเด็นงานศพของ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร มาเคลื่อนไหว คิดว่าไม่เหมาะสม



+++นายอำนวย ปะติเส ที่ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกระแสข่าวจะได้รับการแต่งตั้งมาเป็น รมช.เกษตรฯ ว่า ยังไม่ทราบ อย่างไรก็ตามได้เตรียมแก้ปัญหาเรื่องราคายางตกต่ำ โดยจะมีมาตรการออกมาเป็นชุดแก้ปัญหายางพาราทั้งระบบ ขณะนี้ อยู่ที่การตัดสินใจของคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ หรือ กยน. ซึ่งคาดว่าชุดมาตรการทั้งหมดจะผ่านคณะรัฐมนตรี(ครม.)ไม่เกินเดือนนี้ และเงินช่วยเหลือถึงมือเกษตรกรสวนยางที่ขณะนี้มีความเดือดร้อนมาก ไร่ละ 2,520 บาท เพื่อให้มีรายได้ก่อนเปิดกรีดยางเดือนพ.ย.



+++นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กล่าวถึง การจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ตามนโยบายของรัฐบาล 1,000 บาทต่อไร่ไม่เกิน 15,000 บาท ว่า ในวันที่ 20 ต.ค. ที่รัฐบาลมีกำหนดจ่ายเงินวันแรก จะมอบหมายให้ ป.ป.ท.เขตพื้นที่ต่างๆ จัดชุดไปเฝ้าสังเกตการณ์การจ่ายเงินให้เป็นไปตามนโยบายที่เงินต้องถึงมือชาวนาตัวจริง ขณะที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) มีหน้าที่ตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินให้กับเกษตรกร โดยจะเปรียบเทียบจากข้อมูลการขึ้นทะเบียนชาวนาของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหลัก เพื่อให้เงินถึงมือชาวนาตัวจริง ไม่ใช่เจ้าของที่ดิน



+++นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ( ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่า คณะกรรมการป.ป.ช.มีมติเสียงข้างมากให้ส่งรายงานการไต่สวนข้อเท็จจริง เรื่องการถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พร้อมเอกสารและความเห็นไปยังประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)เพื่อพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป ตามการชี้มูลของป.ป.ช.ว่า น.ส. ยิ่งลักษณ์ ไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล



+++ธนาคารแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์ วันหยุดของสถาบันการเงินเป็นกรณีพิเศษ 2 มกราคม 2558 เนื่องในเทศกาลวันปีใหม่ ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ได้กำหนดวันหยุดยาว เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวเรื่อง การกำหนดวันหยุดทำการของสถาบันการเงินเป็นกรณีพิเศษ  การประกาศวันหยุดให้ทราบล่วงหน้าเป็นเวลาพอสมควร ทำให้ภาคธุรกิจ เตรียมการปรับตัวได้ จึงไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อระบบการเงินและระบบเศรษฐกิจของประเทศ อย่างไรก็ตาม สถาบันการเงิน สามารถใช้ดุลยพินิจเลือกเปิดสาขาบางแห่ง เช่น สาขาในห้างสรรพสินค้า เพื่อให้บริการแก่ประชาชนได้เช่นเดียวกับกรณี วันหยุดตามปกติทั่วไป



+++หุ้นไทย ปิดตลาด พุ่ง 17.22 จุด ปิดที่ 1,560.61 จุด มูลค่าการซื้อขาย 44,702.71 ล้านบาท ทิศทางเดียวกับตลาดส่วนใหญ่ในภูมิภาค หลังคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด )จะยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ย



+++นายแพตทริก โมเดียโน นักเขียนชาวฝรั่งเศสวัย 69 ปี คว้ารางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมประจำปีนี้ เนื่องจากผู้เขียนมีศิลปะในการเล่าความทรงจำเกี่ยวกับชะตากรรมของมนุษย์ด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย ช่วยให้เราเข้าใจถึงการประกอบอาชีพที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนในโลกปัจจุบัน  ส่วนรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ คณะกรรมการฯจะประกาศชื่อในวันศุกร์นี้ ส่วนผู้คว้ารางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์จะมีการประกาศชื่อในวันจันทร์



+++ผู้พิพากษาไดอานา  ไบรอันท์ แห่งศาลครอบครัวในออสเตรเลีย เปิดเผยต่อสถานีโทรทัศน์เอบีซี ว่า สามี ภรรยาชาวออสเตรเลียคู่หนึ่งปฏิเสธเด็กที่เกิดจากแม่อุ้มบุญชาวอินเดียเพราะเพศของลูกไม่ถูกใจ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2555  และสองสามีภรรยา ตัดสินใจทิ้งลูกอุ้มบุญไว้ที่อินเดีย กระทรวงต่างประเทศและการค้าออสเตรเลีย ยังไม่ได้แสดงความเห็น รัฐต่างๆส่วนใหญ่ในออสเตรเลีย ระบุให้การอุ้มบุญเชิงพาณิชย์เป็นสิ่งผิดกฏหมาย แต่ยอมให้ชาวออสเตรเลียจ้างผู้หญิงอื่นให้ตั้งท้องแทนได้ในต่างประเทศ



 



 



 



 



 



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X