ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช.ลงมติวาระที่ 3 เห็นสมควรให้ใช้ร่างพระราชบัญญัติการกลับไปใช้สิทธิในบำเหน็จบำนาญตามพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ.2494 พ.ศ. เป็นกฎหมาย ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 203 เสียง งดออกเสียง 5 เสียง และที่ประชุม สนช. ยังเห็นชอบรายชื่อคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จำนวน 16 คณะ แต่ละคณะมีจำนวนคณะกรรมาธิการระหว่าง 22-26 คน และจะประชุมเพื่อเลือกประธานและรองประธานแต่ละคณะในวันที่ 9 ตุลาคม
ส่วนการรายงานตัวของสมาชิกสภาปฎิรูปแห่งชาติ หรือ สปช. ล่าสุด นาย จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี สปช.ด้านเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า สนใจงานปฎิรูปเศรษฐกิจ เตรียมพร้อมรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี ด้วยการประสานกับประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนการคงกฏอัยการศึก คาดว่าไม่มีผลกระทบกับการปฏิรูป
ส่วนคนที่จะมาเป็นประธานสปช. ต้องเป็นผู้มีประสบการณ์ รับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย เช่นเดียวกับนายคำนูญ สิทธิสมาน เปิดเผยว่า ประธานสปช.ต้องเป็นที่ยอมรับจากทุกฝ่ายและมีประสบการณ์ ส่วนแนวทางการปฎิรูป หลังจากได้ประธานและรองประธานแล้ว จะต้องมีการอภิปรายทั่วไปเพื่อให้เห็นภาพรวมของปัญหาของประเทศ และแนวทางการปฎิรูปอย่างเป็นระบบ และมองว่าทิศทางการปฎิรูปอาจเป็นแนวทางในการกำหนดรัฐธรรมนูญฉบับถาวรในอนาคต ส่วนคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญที่สปช.จะเสนอได้ 20 คนเชื่อว่าจะมีวิธีการคัดเลือกที่เหมาะสม แม้ต้องเสนอชื่อภายในเวลา 15 วันนับจากประชุดนัดแรก ขณะที่การรายงานตัวของสมาชิกสปช.รวม 2 วัน มี 98 คน เช่น นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล พล.อ. ธวัชชัย สมุทรสาครและ พล.อ. วิชิต ยาทิพย์
ธีรวัฒน์