*สหรัฐจะเผาศพผู้ติดเชื้ออีโบล่า ที่เสียชีวิต เพื่อสกัดการแพร่ระบาด*

09 ตุลาคม 2557, 14:17น.


การเสียชีวิตของนายโธมัส อีริค ดันแคน วัย 42 ปี ผู้ป่วยคนแรกที่ได้รับการวินิจฉัยในสหรัฐว่าติดเชื้อไวรัสอีโบลา ขณะรักษาตัวอยู่ที่เท็กซัส เฮลธ์ เพรสไบเทอเรียน ในเมืองดัลลัส รัฐเท็กซัสได้กลายเป็นงานท้าทายเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของสหรัฐ สำหรับสถานการณ์ที่พวกเขาไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน ซึ่งก็คือการจัดการกับศพที่ยังสามารถแพร่เชื้อได้ในระดับสูง ไปอีกหลายวัน

หลังจากเขาเสียชีวิตไม่นาน หน่วยงานสาธารณสุขของรัฐเท็กซัสได้ประกาศว่า ศพของดันแคนจะต้องถูกนำไปฌาปนกิจสถานเดียวเท่านั้น ตามระเบียบปฏิบัติที่เข้มงวด ซึ่งออกโดยรัฐบาลกลาง เมื่อไม่นานมานี้ 



นายแพทย์เดวิด เลคีย์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยงานสาธารณสุขรัฐเท็กซัส บอกว่า การฌาปนกิจศพ จะช่วยกำจัดเชื้อไวรัสในศพ ส่วนเถ้ากระดูกจะถูกส่งคืนให้ครอบครัว และไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องป้องกันอีกแล้วในช่วงของการเก็บกระดูก โดยแผนการฌาปนกิจศพของนายดันแคนผ่านความเห็นชอบของครอบครอบครัวของเขาแล้ว 



ด้านศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือ CDC ได้เผยแพร่เอกสารที่มีชื่อว่า "คำแนะนำเพื่อการจัดการอย่างปลอดภัยสำหรับศพผู้ป่วยอีโบลาในโรงพยาบาลและห้องดับจิตทั่วสหรัฐ" เนื่องจากอีโบลาสามารถติดต่อได้โดยตรงผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งจากร่างกายมนุษย์ และ CDC ได้แนะนำบุคคลากรตามโรงพยาบาล ไม่ให้ทำความสะอาดศพ หรือ เคลื่อนย้ายอุปกรณ์ทางการแพทย์หรือสายยางที่ใช้กับผู้ป่วย แต่ให้ใช้พลาสติกห่อศพ ก่อนใส่ถุงบรรจุศพอย่างหนาซ้อนกันสองใบก่อนส่งไปยังห้องดับจิต ซึ่งหมายถึง ครอบครัวของผู้ป่วยจะไม่มีโอกาสได้ทำพิธีศพตามประเพณีนอกจากนี้ ในเอกสารแนะนำของ CDC ยังห้ามไม่ให้ชันสูตรศพหรือดองศพด้วย



CDC ระบุด้วยว่า ถ้าไม่ฌาปนกิจก็ต้องรีบฝังอย่างเร่งด่วน โดยการนำศพใส่โลงที่ปิดผนึกอย่างมิดชิดไม่ให้เชื้อโรคเล็ดรอดออกมาได้ ส่วนในประเด็นการขนส่งทางอากาศ ยังคงมีการถกเถียงกันในประเด็นที่ว่า โลงศพที่จำหน่ายอยู่ทั่วไป ไม่ได้รับประกันเรื่องการผนึกแน่นมิดชิด และถูกทำมาเพื่อให้เปิดได้ ไม่ใช่ปิดผนึกแน่นแบบระบบสุญญากาศ

ข่าวทั้งหมด

X