+++นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยถึง ความคืบหน้า การพิจารณาส่งสำนวนการถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในโครงการรับจำนำข้าวว่า กรรมการสำนักงาน ป.ป.ช.กำลังสรุปรายละเอียดของสำนวนอยู่ ซึ่งคาดว่าจะนำเข้าที่ประชุม ป.ป.ช. ภายในวันที่ 9 ต.ค. นี้ หากกรรมการเข้าประชุมครบ
+++การเดินทางเยือนพม่าของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ช่วงบ่ายพรุ่งนี้ ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีจะหารือข้อราชการกับนาย เต็ง เส่ง ประธานาธิบดีพม่า ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ(เอ็มโอยู) 3ฉบับ ประกอบด้วยบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่ เมืองน้อง จ.เชียงใหม่ – เชียงตุง บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้อง จ.ประจวบคีรีขันธ์ – มะริด และบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้อง จ.ระนอง – เกาะสอง จะเป็นการลงนามระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดไทยและพม่า
+++นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ส่งตัวแทนเข้ายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) แล้ว ส่วนสาเหตุที่ยื่นล่าช้า ตัวแทนของนายอาคม ชี้แจงว่าเกิดจากความผิดพลาดในการตรวจสอบวันที่ในการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯ ในช่วงเข้ารับตำแหน่ง ทั้งในช่วงดำรงตำแหน่ง สนช. และดำรงตำแหน่ง ครม.ทำให้นายอาคมเข้าใจผิดในเรื่องวันที่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน และไม่แน่ใจว่าต้องยื่นกี่รอบ แต่ตอนนี้มีการยื่นบัญชีทรัพย์สินให้แก่ ป.ป.ช.ไปเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ทำให้ในขณะนี้คณะรัฐมนตรีได้ยื่นรายการแสดงบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.ครบทุกคนแล้ว
+++พล.ร.อ.ยุทธนา ฟักผลงาม สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อสรรหาสนช. ให้ดำรงตำแหน่งกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญประจำสนช.คณะต่างๆ จำนวน 16 คณะ เปิดเผยว่า ขณะนี้การสรรหาสมาชิกสนช.ให้ดำรงตำแหน่งในกมธ.สามัญฯ เสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการสรรหาเป็นไปอย่างราบรื่น สมาชิกทุกคนให้ความร่วมมือ และเข้าใจกติกาการสมัครเป็นกมธ.อย่างชัดเจน และในวันที่ 9 ต.ค.นี้ จะรายงานเรื่องดังกล่าวต่อที่ประชุมสนช. จากนั้นในวันเดียวกัน กมธ.แต่ละคณะจะดำเนินการประชุมเพื่อเลือกประธาน รองประธาน โฆษก กมธ. และตำแหน่งอื่นๆ เพื่อที่จะได้เดินหน้าทำงานได้ทันที
++พ.ต.อ.ประชุม เรืองทอง ผกก.สภ.เกาะพะงัน กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกนายจ้างของสองผู้ต้องหาฆาตกรรมสองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ให้มาพบพนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน ภายใน 7 วัน ในข้อหารับคนต่างด้าวซึ่งไม่มีใบอนุญาตทำงานเข้าทำงาน และข้อหาให้ที่พักพิงแก่คนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ล่าสุด ผู้จัดการของสถานประกอบการทั้ง 2 แห่ง ได้ติดต่อทางโทรศัพท์มาแล้ว อ้างว่าที่ไม่ได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ระหว่างการติดตามจับกุมคนร้าย เนื่องจากอยู่ในระยะผ่อนผันการใช้แรงงานต่างด้าวตามประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ( คสช.) ซึ่งพนักงานสอบสวนมองว่าเป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้น และในการสอบสวนพยานแวดล้อมน่าเชื่อว่า ผู้ประกอบการทั้ง 2 แห่ง มีความผิด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง
+++ขณะที่ นายธวัชชัย เสียงแจ้ว อธิบดีอัยการ ภาค 8 ในฐานะหัวหน้าคณะอัยการพิจารณาสำนวน กล่าวว่า การพิจาณาคดีโดยคณะผู้เชี่ยวชาญ มีความคืบหน้าไปมากแล้ว และยังไม่พบปัญหา ไม่ได้มีการตีสำนวนกลับไปยังพนักงานสอบสวน แต่การพิจาณาจะต้องละเอียดรอบคอบ เนื่องจากเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจทั้งจากสื่อมวลชนและนานาประเทศ จะเร่งทำงานเพื่อให้สามารถส่งฟ้องต่อศาลจังหวัดเกาะสมุย ภายในกำหนดครบวันฝากขังครั้งที่ 1 คือ วันที่ 15 ต.ค. และคาดว่าไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น คณะอัยการพิจารณาสำนวน ได้มีการทำงานกันอย่างต่อเนื่อง และมีการพิจารณาสำนวนอย่างละเอียด โดยคาดว่าจะมีการส่งตัวผู้ต้องหา พร้อมสำนวนการสอบสวนต่อศาลจังหวัดเกาะสมุยเพื่อพิจารณาประทับฟ้องภายในวันที่ 10 ต.ค.
+++หุ้นไทย ปิดตลาดวันนี้ บวก4.00จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,543.39จุด มูลค่าซื้อขาย 4 หมื่นล้านบาท
+++คริสตี เคนนี เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอ ผ่าน Youtube.com ในโอกาสที่จะหมดวาระ การดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย ครบ 4 ปีในเดือน พ.ย. และจะกลับไปทำหน้าที่ ที่กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกาต่อไป พร้อมกับระบุว่า รู้สึกดีใจ และเป็นเกียรติที่ได้ทำหน้าที่เอกอัครราชทูตโดยขอขอบคุณในมิตรภาพที่คนไทยมอบให้ และรู้สึกชื่นชมมิตรภาพระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกา ที่เข้มแข็งตลอดมา โดยหวังว่าหลังจากนี้ มิตรภาพระหว่างคนไทย และ สหรัฐอเมริกา จะแข็งแกร่งต่อไป ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ของสหรัฐ จะแต่งตั้งเอกอัครราชทูตคนใหม่ เพื่อมาดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทยต่อไป
+++ทางการญี่ปุ่น สั่งอพยพชาวบ้านกว่า 1ล้าน 2 แสนคนไปยังสถานที่ที่ปลอดภัย หลังจากศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่น ที่เกาะฮาวายของสหรัฐฯ เตือนอันตรายของพายุไต้ฝุ่นหว่องฟ้ง ที่มีความรุนแรงมากที่สุดแห่งปี ที่คาดจะพัดถล่มญี่ปุ่นในอีก 2-3 วันข้างหน้า พายุลูกใหม่นี้อาจจะมีความแรงเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่น ขณะนี้เคลื่อนตัวขึ้นไปทางเหนือ มุ่งหน้าสู่เกาะโอกินาวา ทางภาคใต้สุดของญี่ปุ่น คาดว่า จะเพิ่มความแรงลมเป็น 190 ไมล์ต่อชั่วโมง(305 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)ในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า