หลังตำรวจสรุปผลการฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษว่าคนร้ายเป็นชาวต่างด้าวสัญชาติพม่า พลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เชื่อมั่นว่า เหตุการณ์นี้จะไม่กระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ส่วนการเดินทางเยือนพม่าของนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 9-10 ตุลาคม เป็นการพบปะเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นทั้ง ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคงชายแดน พลังงาน แรงงานต่างด้าว รวมถึง การก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกทวาย ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะไปแสดงความจริงใจ ต่อพม่า ว่าจะดำเนินการร่วมกันเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทั้ง2ประเทศ ทัง้นีจะเน้นการทำงานร่วมกัน โดยความโปร่งใส ชัดเจน นอกจากนั้น นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปพบนักธุรกิจไทยในย่างกุ้ง เพื่อพูดคุยด้านเศรษฐกิจด้วย
ด้านน.พ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าที่ประชุมยังห้าม ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เลขานุการนายกรัฐมนตรี เลขานุการรัฐมนตรี ดำรงตำแหน่งกรรมการ หรือที่ปรึกษาของรัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน หรือองค์กรอื่นๆของรัฐ เว้นแต่การเป็นกรรมการของทางราชการ และต้องไม่เป็นคู่สัญญาหรือมีผลประโยชน์ใดๆขัดหรือแย้งกับส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรมหาชน หรือองค์กรอื่นของรัฐตาม พ.ร.บ.ระเบียบราชการการเมือง พ.ศ.2535
ครม.มีมติอนุมัติตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตีเสนอ โดยรับโอนนายชูเกียรติ รัตนชัยชาญ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา มาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี และแต่งตั้ง นายดิสทัต โหตระกิตย์ รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป
ส่วน พ.อ.พิเศษ วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ คสช. ได้กล่าวถึงการดำเนินงานของ คสช.ว่า จะเน้น3แนวทางหลัก คือ การรักษาความสงบเรียบร้อย การรักษาการปรองดอง และสนับสนุนการทำงานของรัฐบาล