ธ.ก.ส.เตรียมจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท

06 ตุลาคม 2557, 10:30น.


นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า จากการที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2557/58 เพิ่มเติมจากมาตรการที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ให้ความเห็นชอบไว้แล้ว โดยกำหนดให้ดำเนินโครงการจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวทุกครัวเรือน ตามพื้นที่ที่ปลูกข้าวจริงแต่ไม่เกินครัวเรือนละ 15 ไร่ ในอัตราไร่ละ 1,000 บาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ โดย ธ.ก.ส.ได้เตรียมแนวทางการดำเนินงานของธนาคารสาขา เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเกษตรกรที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จำนวน 3,490,000 ครัวเรือน คิดเป็นพื้นที่ปลูกข้าวนาปีประมาณ 63,000,000 ล้านไร่และวงเงินชดเชยประมาณ 40,000 ล้านบาท


และเพื่อให้กระบวนการทำงานเป็นไปอย่างถูกต้อง โปร่งใส และเงินถึงมือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวอย่างแท้จริงและทั่วถึง จึงกำหนดจ่ายเงินช่วยเหลือให้กับเกษตรกร ตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2557 เป็นต้นไป


ทั้งนี้นายลักษณ์ กล่าวว่า ราคาสินค้าเกษตรหลัก ๆ ของไทยมีแนวโน้มอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะข้าว ซึ่งผลผลิตกำลังทยอยออกสู่ตลาด ประกอบกับมีปริมาณข้าวที่ยังค้างสต็อคอีกจำนวนหนึ่ง ทำให้ผู้ซื้อกดราคา เกษตรกรจึงเหลื่อรายรับที่แท้จริงไม่มากนัก


สำหรับมาตรการที่ คสช.มีมติให้ ธ.ก.ส. เข้าไปช่วยเหลือเกษตรกรในช่วงที่ผ่านมา และอยู่ระหว่างการดำเนินงานในขณะนี้ ประกอบด้วย โครงการลดดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อการผลิตแก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2557/58 ลงร้อยละ 3 ต่อปี รายละไม่เกิน 50,000 บาท ระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ซึ่งเป็นสินเชื่อที่เข้าไปช่วยเกษตรกรในช่วงที่ผลผลิตออกมาเป็นปริมาณมากและมีราคาตกต่ำ โดยสามารถนำผลผลิตคือข้าวเปลือกหอมมะลิและข้าวเปลือกเหนียวมาขอกู้กับ ธ.ก.ส. ในอัตราร้อยละ 80 ของราคาตลาด ในวงเงินไม่เกินรายละ 300,000 บาท โดยไม่เสียดอกเบี้ย กำหนดชำระคืนภายใน 4 เดือนนับถัดจากเดือนรับเงินกู้ เริ่มตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2557 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2558 เป้าหมายดำเนินการในเขตพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหลือ จำนวนข้าวเปลือก 1,500,000 ตัน วงเงินสินเชื่อ 17,280 ล้านบาท และโครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ได้แก่ สหกรณ์ภาคการเกษตรและกลุ่มเกษตรกร เพื่อกระตุ้นให้องค์กรของเกษตรกรเข้ามามีส่วนช่วยในการรักษาระดับราคาผลผลิตข้าวโดยการรวบรวมข้าวเปลือกเพื่อการจำหน่าย และการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิต ในวงเงิน 20,000 ล้านบาท 


..
ข่าวทั้งหมด

X