การยื่นบัญชีแสดงทรัพย์สินและหนี้สินของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ปปช.
นายวรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาธิการปปช. เปิดเผยว่า ขณะนี้ขาดสมาชิกสนช. 2 คนจากจำนวน 197 คนที่ยังไม่ยื่นบัญชีมา คือ นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนาย อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม โดยงปปช.กำลังส่งหนังสือไปสอบถามว่า เหตุใดจึงไม่ยื่นแสดงรายการ เพราะสมาชิกสนช.ทุกคนต้องยื่นบัญชี แม้จะพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว และหากรับตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีก็ต้องยื่นอีกครั้ง
หลังจากนี้ ต้องดูคำชี้แจงอีกครั้งว่า เป็นอย่างไร อาจเกิดจากความเข้าใจผิด แต่หากจงใจไม่ยื่นบัญชีก็จะมีความผิดตามกฎหมาย ซึ่งขั้นตอนการตรวจสอบจะดำเนินการเหมือนกับ สส.และสว.ที่มาจากการเลือกตั้งทุกประการ หากมีการยื่นบัญชีเท็จ คณะกรรมการปปช.จะส่งเรื่องให้ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิจารณา และอาจมีโทษเว้นวรรคการเมือง 5 ปี ส่วนสมาชิกสนช. ที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่จำนวน 28 คนหลังจากที่ปฎิณาณตนไปเมื่อวานแล้ว ก็ต้องยื่นบัญชีให้ปปช.ภายในเวลา 30 วันขณะเดียวกันวันนี้ยังเป็นวันสุดท้ายที่ปปช.ให้คณะรัฐมนตรียื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิ้นโดยขณะนี้ ยื่นมาแล้ว 26 ราย ขาดอีก 7 ราย จากนั้นจะเปิดเผยบัญชีของคณะรัฐมนตรีไม่เกินสิ้นเดือนนี้ และหากตรวจสอบพบว่าเป็นเท็จก็จะมีโทษเช่นเดียวกับสนช.
สำหรับ กรณีของสมาชิกสภาปฎิรูปแห่งชาติ หรือ สปช. ขณะนี้ได้เตรียมข้อมูลเพื่อเสนอคณะกรรมการปปช.พิจารณา โดยต้องรอการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมรายชื่อสปช.อีกครั้ง แม้จะไม่มีระบุไว้ในกฎหมายว่าจะต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน หนี้สิน แต่เป็นวัฒนธรรมของปชช.ที่ต้องการให้เกิดความโปร่งใส รวมทั้งพิจารณาว่าการดำรงตำแหน่งของสปช.อาจเข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ส่วนการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน หนี้สินของสมาชิกสนช. ปรากฎว่า นาย อิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยมีทรัพย์สินมากกว่าหนิ้สินมากที่สุดที่ 5,000 ล้านบาท ส่วน นาย สมพร เทพสิทธา มีทรัพย์สินน้อยสุดเพียง 160,000 บาท