ข่าวเที่ยงครึ่งวัน 12.30 น.วันศุกร์ที่19ตุลาคม2561

ข่าวเที่ยงครึ่งวัน 12.30 น.วันศุกร์ที่19ตุลาคม 2561

+++น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ส่งทนายความยื่นถอนฎีกา จำเลยทั้ง 3 คน ประกอบด้วย นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาธิปัตย์, นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ และนายศิริโชค โสภา อดีต ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ผู้ดำเนินรายการ “สายล่อฟ้า” ทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมบลูสกาย เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา และดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติงาน สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 และ 15 กุมภาพันธ์ 2555 จำเลยร่วมกันจัดรายการ “สายล่อฟ้า” ออกอากาศผ่านดาวเทียมบลูสกาย มีเนื้อหาหมิ่นประมาทใส่ความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้เสียหาย ทำนองว่าไม่เข้าร่วมภารกิจประชุมของรัฐสภา และน่าจะเดินทางไปกระทำภารกิจ ว.5 ที่โรงแรมโฟรซีซั่นส์  ต่อมาศาลฎีกาพิจารณาแล้วให้นัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษาศาลฎีกาต่อไปในวันที่ 20 พ.ย.นี้

+++คดีนี้ ศาลชั้นต้นจำคุกจำเลยทั้งสาม คนละ 1 ปี ปรับคนละ 5 หมื่นบาท แต่จำเลยทั้งสามไม่เคยต้องโทษมาก่อน จึงให้รอลงอาญาไว้2ปี ส่วนศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น สำหรับในวันนี้ นายชวนนท์ ไม่เดินทางมาศาล คาดว่าวันนี้จะยังไม่มีการออกหมายจับเนื่องจากทราบว่านายชวนนท์ ยังไม่ได้รับหมายเรียกให้เดินทางมาศาลแต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับศาลว่าจะว่าอย่างไร

+++กรณีข่าวคณะนักบินการบินไทย เที่ยวบิน TG971 ซูริค-สุวรรณภูมิ วันที่ 11 ตุลาคม ดีเลย์กว่า 2 ชั่วโมงครึ่ง ต้นเหตุเกิดจากนักบินไม่ยอมนำเครื่องขึ้น เพราะที่นั่งของคณะนักบินที่จะโดยสารกลับ (Deadhead pilot) ไม่ได้นั่งในชั้นธุรกิจตามที่ตนเองต้องการ  อีกมุมหนึ่งในสังคมออนไลน์ มีผู้แชร์โพสต์เฟซบุ๊คของนักบินได้กล่าวถึงกรณีการได้นั่งชั้นธุรกิจของนักบิน ซึ่งเป็นสิทธิมานาน ระบุว่า ข้อเท็จจริงต่างๆ น่าจะต้องรอผลสอบสวนเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ก่อนที่จะมีการตัดสิน หรือนำข้อมูลออกไปสู่สื่อสาธารณะ ประเด็นหนึ่งที่เพื่อนหลายคนสงสัยว่าทำไม กัปตันการบินไทยถึงต้องเดินทางในชั้น First class ผมอยากจะให้ข้อมูลเพื่อนๆว่า สิทธิอันนี้ มันเป็นสิทธิที่เค้าได้รับตามเงื่อนไขที่บริษัทตกลงว่าจ้างมาตั้งแต่ก่อนที่ผมจะเข้าทำงานเมื่อ 21 ปีที่แล้วซะอีก โดยภายหลัง ทางฝ่ายบริหารฯ ได้ตัดสิทธิ์ ในกรณีกัปตันเดินทางไปทำงานให้บริษัท โดยจะสำรองที่นั่งในชั้นธุรกิจแทน ยกเว้นในกรณีที่นั่งในชั้น First class ว่าง จึงจะได้ไปนั่ง เป็นเรื่องที่แม้ว่าจะรู้สึกเสียสิทธิที่เคยมี แต่ทุกคนก็ยอมเสียสละเพื่อให้บริษัทฯมีรายได้จากการขายตั๋วในชั้น First class มาถึงวันนี้ เกิดกรณีที่แม้ไม่มีผู้โดยสาร First class กัปตันก็ไม่ได้ถูกสำรองที่นั่งให้ตามสิทธิที่มี ซ้ำร้ายต้องกลายเป็นจำเลยสังคมพรุ่งนี้ผมตั้งใจว่าจะหารือกับผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมาย ถึงที่มาของหนังสือที่นำมาเผยแพร่กัน ที่แม้จะไม่ได้ลงลายมือชื่อ แต่เนื้อหาก็ทำให้นักบินเสียชื่อเสียงนั้น สามารถเรียกร้องค่าเสียหายอะไรได้บ้าง

+++พลตำรวจตรี ปรีชา เจริญสหายานนท์ รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง. เปิดเผยว่า ได้สั่งให้ข้าราชการของ ปปง.ออกจากราชการไว้ก่อน  พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง หลังมีพฤติกรรมเรียกรับเงิน 2 ล้านบาท จากนักธุรกิจเช่ารถในพื้นที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีการแอบอ้างชื่อ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  โดยผลการสอบสวนวินัยร้ายแรงไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลาเนื่องจากอยากให้ทำงานด้วยความละเอียดรอบคอบมากที่สุด แต่ก็จะขอให้ดำเนินการให้เร็วที่สุด  เรื่องที่เกิดขึ้น ปปง.ก็รู้สึกเสียใจ แต่ยังอยากให้ประชาชนมั่นใจ ว่า เจ้าหน้าที่ ปปง.ทุกคนยังมุ่งมั่นตั้งใจทำงานอย่างที่สุด ไม่กระทบต่อการทำงานแน่นอน

+++หลังมีคลิปวิดีโอเผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดีย ที่นักเรียนชั้นม. 2 จำนวน 8 คน รุมทำร้ายนักเรียนหญิง ซึ่งเป็นเด็กพิเศษ โดยหลอกว่ามาถักเปียผมให้ เมื่อผู้เสียหายเข้ามาในห้องเรียนแล้ว  จึงได้ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย มีการหวีผมและกระชากผมอย่างแรง ใช้เท้าถีบใบหน้าและลำตัวแล้วใช้ผ้าอุดปากไม่ให้ส่งเสียงร้อง โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในโรงเรียนแห่งหนึ่ง อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา พันตำรวจเอก กฤษณะ  พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ล่าสุด นางสาวทิวา ประเสริฐสุข มารดาผู้เสียหาย เข้าพบพนักงานสอบสวน แจ้งว่ามีความประสงค์ร้องทุกข์ดำเนินคดี กับนักเรียนรุ่นพี่ที่ร่วมกันทำร้ายเด็กหญิงผู้เสียหาย จำนวน 5 คน ในข้อหา “ร่วมกันทำร้ายร่างกาย” โดยพนักงานสอบสวนยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน อาทิ รอผลการชันสูตรบาดแผลของผู้เสียหาย ผลการตรวจทางจิตของผู้เสียหาย, ผู้กระทำ และสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องต่างๆ 

+++เบื้องต้นได้รายงานให้ พลตำรวจเอกจักรทิพย์  ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับทราบแล้ว ได้กำชับพนักงานสอบสวนดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา และให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย และทางครอบครัวผู้เสียหาย พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องเข้าไปบูรณการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเยียวยาสภาพจิตใจของผู้เสียหาย

+++ผู้บริหารของบริษัท แมนเดียนท์ (Mandiant) ที่อยู่ภายใต้บริษัท ไฟร์อาย (FireEye) จำกัด ผู้ให้บริการด้านความมั่นคงปลอดภัยและเทคโนโลยีต่อต้านมัลแวร์ชื่อดัง ซึ่งก่อตั้งโดยสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ของสหรัฐอเมริกา ได้ทำจดหมายถึงกระทรวงการต่างประเทศของไทย ลงวันที่ 8 ต.ค. โดยแจ้งว่า ได้ตรวจพบมัลแวร์ที่ชื่อ "ss.exe" หรือที่รู้จักกันในชื่อ "CETTRA" ซึ่งใช้งานโดยกลุ่มนักเจาะระบบ (แฮกเกอร์) ชื่อ "เอพีที 20" จากประเทศจีน เพื่อโจมตีเว็บเซิร์ฟเวอร์ของกระทรวงการต่างประเทศของไทยบริษัท แมนเดียนท์ฯ จึงขอเสนอให้กระทรวงการต่างประเทศ ควรเพิ่มการป้องกันระบบที่สำคัญ อาทิ ระบบหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ (อี-พาสปอร์ต) จากการถูกโจมตีระบบจากแฮกเกอร์